Page 13 - :: สมุดภาพพิษณุโลก ::
P. 13

สถานที่ส�าคัญทางประวัติศาสตร์ของเมืองพิษณุโลก ๔
                      ๑. วัดพระศรีรัตนมหาธาต (วัดใหญ่) สันนิษฐานว่าสร้างข้นในสมัยพระมหาธรรมราชาท่ ๑ (ลิไท) แห่งสุโขทัย
                                                                      ึ
                                                                                              ี
                                             ุ
               ประมาณ พ.ศ. ๑๙๐๐ โดยมีพระพุทธรูปสำาคัญประดิษฐาน คือ พระพุทธชินราช พระพุทธรูปปางมารวิชัยหันพระพักตร์
               ไปทางแม่นาน่าน (ทิศตะวันตก) โดยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงตรัสสรรเสริญพระพุทธชินราชไว้ว่า
                         ้
                         ำ
                                                                                                             ั
                                                                                                       ี
                                                                     ื
                                                                          �
               “...ตั้งแต่ข้าพเจ้าเห็นพระพุทธรูปมานักแล้ว ไม่ได้เคยรู้สึกว่าดูปล้มใจจาเริญตาเท่าพระพุทธชินราชเลย ท่ตั้งอยู่น้น
               ก็เหมาะหนักหนา วิหารพอเหมาะกับพระ มีท่ดูได้ถนัด และองค์พระก็ตั้งต�าพอดูได้ตลอดองค์ ไม่ต้องเข้าไปดูจ่อนจ่อเกินไป
                                                                         ่
                                                   ี
                                 ั
                                                                                           ี
                                                                ิ
                                                         ิ
               และไม่ต้องแหงนคอต้งบ่าแลดูแต่พระนาสิกพระ ย่งพิศไปย่งรู้สึกยินดีว่าไม่เชิญมาเสียจากท่น้น ถ้าพระพุทธชินราช
                                                                                            ั
                                                                       ี
                                                               ี
                        ี
               ยังคงอยู่ท่พิษณุโลกตราบใด เมืองพิษณุโลกจะเป็นเมืองท่ควรไปเท่ยวอยู่ตราบนั้น ถึงในเมืองพิษณุโลกจะไม่มีชิ้นด   ี
               อะไรเหลืออยู่อีกเลย ขอให้มีแต่พระพุทธชินราชเหลืออยู่แล้ว ยังคงอวดได้อยู่เสมอว่ามีของควรดูควรชมอย่างย่ง
                                                                                                             ิ
               อย่างหนึ่งในเมืองเหนือ ฤๅจะว่าในเมืองไทยทั้งหมดก็ได้...”
                      ๒. วัดจุฬามณี เป็นวัดท่สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถทรงผนวช ๘ เดือน ๑๕ วัน ต้งอยู่ในตำาบลท่าทอง
                                           ี
                                                                                             ั
               อำาเภอเมืองพิษณุโลก มีศาสนสถานท่สร้างด้วยศิลาแลง คือ พระปรางค์วัดจุฬามณี ประมาณพุทธศตวรรษ
                                                 ี
               ที่ ๑๖ - ๑๘ ศิลปะลพบุรี ลักษณะมีฐาน ๓ ชั้น แต่ละชั้นก่อย่อมุม ส่วนเรือนปรางค์นั้นย่อมุมไม้สิบสอง แต่ส่วนยอด
               ไม่มีเพราะพังทลายไปแล้ว
                                                           ี
                                                                                                     ั
                                                  ั
                      ๓. พระราชวังจันทน์ พระราชวังช้นเจ้านายท่สร้างข้นตั้งแต่สมัยสุโขทัย น่าจะมีการบูรณะหลายคร้งโดยเฉพาะ
                                                                ึ
               สมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถเสด็จข้นไปประทับยังพิษณุโลก และเป็นท่ประทับของสมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราชและ
                                                                         ี
                                              ึ
               สมเด็จพระนเรศวรมหาราชเมื่อครั้งครองเมืองพิษณุโลก พระราชวังจันทน์ในปัจจุบันยังมีฐานรากที่เป็นอิฐหลงเหลืออยู่
                                             ั
                                                                                              ั
                                                                                                         ้
                                                                                                         ำ
                                                                              ิ
                                                    ำ
                                                                  ้
                                                                     ู
                                             ้
                        ั
                                  ั
                  ำ
               มกาแพงวงล้อมรอบทงชนในและชนนอก กาแพงล้อมรอบตังอย่ส่วนทางทศเหนือและฝั่งตะวนตกของแม่นาน่าน
                 ี
                                    ั
                                    ้
                                  ้
               พระราชวังจันทน์มีความสำาคัญเนื่องจากเป็นสถานที่ประสูติของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเมื่อ พ.ศ. ๒๐๙๘
               วิถีชีวิตของชาวพิษณุโลกในอดีต ๕
                                                                                              ี
                      ชาวพิษณุโลกส่วนใหญ่ในอดีตดำารงชีวิตด้วยอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลักเนื่องจากเป็นพื้นท่ราบลุ่มเสียส่วนใหญ่
                                                        ้
                                                        ำ
               ราษฎรมักต้งท่อยู่อาศัยกระจัดกระจายไปตามแม่นาและบริเวณวัดเป็นสำาคัญ สภาพของชุมชนพิษณุโลกในอดีตปรากฏ
                         ั
                           ี
                                                                                                         ี
               ในพระนิพนธ์ของสมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ โดยกล่าวถึงฝั่งตะวันตกของพิษณุโลก ซึ่งเคยเป็นท่ตั้งของ
               ตะแลงแกง ทิศใต้ของเมืองว่า “ทิศตะวันออกมีความเจริญกว่าทิศตะวันตก ราษฎรใจบุญมาก ระยะทางสองสามเส้นมีศาลา
               แห่งหนึ่งเป็นที่พักของคนเดินทางแลเลี้ยงพระเสมอ เมื่อไปวันนี้ก็พบก�าลังเลี้ยงพระอยู่แห่งหนึ่ง หว่างศาลามีบ่อน�้า”
                      ชาวพิษณุโลกส่วนใหญ่เป็นชาวพื้นเมืองด้งเดิม อาศัยอยู่ท้งในตัวเมืองและในต่างอำาเภอ ชาวพิษณุโลกเดิมบางส่วน
                                                      ั
                                                                   ั
               อาศัยอยู่ในเรือนไม้ลอยอยู่ริมแม่นาน่าน เรียกว่า “เรือนแพ” ซ่งเป็นเอกลักษณ์ในอดีตของเมืองพิษณุโลก และมีชาวต่างด้าว
                                          ้
                                          ำ
                                                               ึ
               ปะปนอยู่บ้าง เช่น ชาวจีน ชาวอินเดีย มุสลิม และคริสต์ ซึ่ง ๔ กลุ่มนี้มักอาศัยในชุมชนเมืองพิษณุโลก ส่วนผู้คนในกลุ่ม
                                                     ั
                          ั
               ชาติพันธุ์มีท้งชาวม้ง ลีซอและเย้า โดยมากต้งถิ่นฐานอยู่ตามเทือกเขาในท้องท่อำาเภอนครไทย อำาเภอชาติตระการ
                                                                                 ี
                                                                                      ี
               ชาวพิษณุโลกส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธเป็นหลัก และมีลักษณะวัฒนธรรมส่วนใหญท่ได้รับอิทธิพลมาจากภาคกลาง
               ของไทย  ๖
               ๔  สรุปสาระสำาคัญจากหนังสือรายงานผลการสัมมนาประวัติศาสตร์เมืองพิษณุโลก (สำานักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติและวิทยาลัยคร ู
                  พิบูลสงคราม, ๒๕๒๒. รายงานผลการสัมมนาประวัติศาสตร์เมืองพิษณุโลก. พิษณุโลก: สำานักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ)
               ๕  สรุปสาระสำาคัญจากหนังสือรายงานผลการสัมมนาประวัติศาสตร์เมืองพิษณุโลก (สำานักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติและวิทยาลัยคร  ู
                  พิบูลสงคราม. ๒๕๒๒. รายงานผลการสัมมนาประวัติศาสตร์เมืองพิษณุโลก. พิษณุโลก: สำานักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ)
               ๖   สรุปสาระสำาคัญจากหนังสืออ่านประกอบบทเรียน ส.ป.ช. ความรู้เรื่องเมืองพิษณุโลก (วิทยาลัยครูพิบูลสงคราม. ๒๕๒๖. หนังสืออ่านประกอบ
                  บทเรียน ส.ป.ช. ความรู้เรื่องเมืองพิษณุโลก. พิษณุโลก: วิทยาลัยครูพิบูลสงคราม)
                                                                                          สมุดภาพพิษณุโลก   11
                                                                                                         Ÿ
   8   9   10   11   12   13   14   15   16   17   18