Page 8 - :: สมุดภาพชัยภูมิ ::
P. 8
ค�าน�า
คาขวัญของจังหวัดชัยภูมิมีว่า “กาเนิดแม่น�าชี สดุดีพญาแลผู้กล้า ปรางค์กู่เป็นสง่า ลาค่าพระธาตุ
�
้
�
�
้
ชัยภูมิ สมบูรณ์ป่าเขาสรรพสัตว์ เด่นชัดลายผ้าไหม ดอกกระเจียวงามลือไกล อารยธรรมไทยทวารวดี”
้
�
�
หมายถึงชัยภูมิเป็นต้นทางของแม่นาชี พญาแลเป็นผู้กล้าเพราะไม่ยอมทาตามคาส่งของเจ้า
�
ั
อนุวงศ์จากเวียงจันทน์ แม้ต้องถูกประหารชีวิต มีปรางค์กู่เป็นโบราณสถานเก่าแก่ มีพระธาตุชัยภูม ิ
ศิลปะผสมผสานระหว่างศิลปะล้านช้างกับล้านนาที่อ�าเภอแก้งคร้อ เริ่มสร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๕๕๐
ในป่าเขาเช่นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว มีพรรณไม้และสัตว์ป่าหลายชนิด ส่วนท่อ�าเภอ
ี
หนองบัวแดงมีรอยเท้าและซากดึกด�าบรรพ์ไดโนเสาร์
ี
�
ี
ผ้าไหมมัดหม่ท่อาเภอบ้านเขว้าทอลายได้สวย มีทุ่งดอกกระเจียวสีชมพูบานไสวในอุทยาน
แห่งชาติป่าหินงามระหว่างเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคมเป็นท่นิยมของนักท่องเท่ยว และสุดท้ายชัยภูม ิ
ี
ี
เป็นอีกที่หนึ่งที่ปรากฏร่อยรอยอารยธรรมสมัยทวารวดีเมื่อราวหนึ่งพันปีก่อน
ชัยภูมิอยู่ในภาคอีสานห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ ๓๕๐ กิโลเมตร จังหวัดข้างเคียงคือ ลพบุรี
นครราชสีมา ขอนแก่น เพชรบูรณ์ และเลย
ี
หนังสือท่ให้ความรู้เก่ยวกับชัยภูมิได้ค่อนข้างละเอียดคือหนังสือช่อวัฒนธรรม พัฒนาการ
ื
ี
ทางประวัติศาสตร์ เอกลักษณ์และภูมิปัญญาจังหวัดชัยภูม คณะกรรมการฝ่ายประมวลเอกสารและ
ิ
จดหมายเหตุจัดพิมพ์เมื่อ พ.ศ. ๒๕๔๒
หนังสือดังกล่าวกล่าวว่าในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ ซึ่งแต่เดิมบางแห่งเขียนว่า “ไชยภูมิ” เคยมีคน
ี
ื
อยมาตั้งแต่สมัยกอนประวัติศาสตร์หรอเม่อราว ๓,๕๐๐ - ๑,๕๐๐ ปมาแล้ว หลักฐานได้แก่ภาชนะดินเผา
ู่
่
ื
�
�
�
ี
ท่บ้านโนนทัน อาเภอเกษตรสมบูรณ์ เคร่องมือเหล็ก กาไล ห่วงสาริดท่บ้านโป่งนก อาเภอเทพสถิต เป็นต้น
ี
�
ื
ื
ในสมัยทวารวดีหรือเม่อยุคพันปีก่อน ชัยภูมิอยู่ในเส้นทางการเผยแพร่วัฒนธรรมทวารวดีจาก
ภาคกลางสู่ภาคอีสาน ดังหลักฐานเสมาบ้านกุดโง้ง อ�าเภอเมืองชัยภูมิ
ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช (ครองราชย์ระหว่าง พ.ศ. ๒๑๙๙ - ๒๒๓๑) เวียงจันทน์ตก
เป็นเมืองขึ้นของกรุงศรีอยุธยา ชาวเวียงจันทน์ได้อพยพเข้ามาทางแม่น�้าชี แล้วลงหลักปักฐานในแถบ
บ้านลุ่มล�าชี หนองนาแซง ฯลฯ ท�าให้เกิดการผสมผสานวัฒนธรรมและเกิดบ้านเกิดเมืองขึ้นหลายแห่ง
เช่น คอนสวรรค์ ภูเขียว สี่มุม และเกษตรสมบูรณ์
จากเมืองเล็กๆ ท่เคยข้นกับนครราชสีมา ถึงสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
ึ
ี
ี
รัชกาลท่ ๒ (ครองราชย์ระหว่าง พ.ศ. ๒๓๕๒ - ๒๓๖๗) ขุนนางชาวเวียงจันทน์คนหนึ่งท่ชื่อนายแล ได้พา
ี
พรรคพวกมาต้งถ่นฐานในแถบนี้อีก จนบ้านเมืองเป็นปึกแผ่น กระท่งพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า
ั
ั
ิ
นภาลัยพระราชทานบรรดาศักดิ์ให้นายแลเป็นขุนภักดีและพระยาภักดีชุมพลในที่สุด
ี
กับให้ยก “บ้านหลวง” อันเป็นพื้นท่ท่ลงตัวแล้วเป็นเมืองไชยภูมิ ให้พระยาภักดีชุมพลเป็นเจ้าเมือง
ี
ชัยภูมิคนแรก
ครั้นถึงสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ เจ้าอนุวงศ์เวียงจันทน์คิดขบถ
พระยาภักดีชุมพลไม่เข้าด้วยกับเจ้าอนุวงศ์ จึงถูกเจ้าอนุวงศ์ประหารชีวิตเม่อ พ.ศ. ๒๓๖๙ ทาให้ชาวชัยภูม ิ
�
ื
ื
ยกพระยาภักดีชุมพลเป็นวีรบุรุษ นามว่า “เจ้าพ่อพญาแล” หลังจากน้ ชัยภูมิได้พัฒนาเร่อยมาจนได้รับ
ี
การจัดตั้งเป็นจังหวัดเมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๖
เร่องราวของชัยภูมิยังมีอีกยืดยาวพอสมควร แต่จากการสังเกตหนังสือเก่ยวกับชัยภูมิยังม ี
ื
ี
ื
ไม่มากนัก ส่วนใหญ่เน้นข้อเขียนเป็นหลัก มีภาพประกอบชัดบ้าง ไม่ชัดบ้าง เล็กบ้าง ใหญ่บ้าง เม่อจ�าเป็น
ต้องน�าไปใช้อ้างอิง ก็ท�าให้เกิดปัญหาเป็นอันมาก
6 สมุดภาพชัยภูมิ