Page 12 - :: สมุดภาพชัยภูมิ ::
P. 12
ี
ี
มหาราช รัชกาลท่ ๑ ปรากฏหลักฐานว่าทางราชอาณาจักรลาว ในปัจจุบัน) บ้านเส้ยว (บ้านนาเสียวปัจจุบัน) บ้าน
ี
มีการปกครองแบบอาญาส่โดยกษัตริย์แห่งล้านช้างคือ โนนไพหญ้า (เป็นบ้านร้างข้างบ้านเมืองน้อย
“สมเด็จพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชที่ ๕” หรือที่รู้จักกัน ปัจจุบันเรียกคุ้มโนนวัด ท้ายบ้านเมืองน้อยในปัจจุบัน)
ี
ุ
�
้
ั
ในนาม “เจ้าอนวงศ์เวยงจนทน์” เช่นเดียวกัน บ้านโนนนาอ้อม บ้านหนองใหญ่ บ้านกุดไผ่ (บ้านตลาด
ี
ิ
ิ
และในยุคต้นกรุงรัตนโกสินทร์น้ แม้ว่าได้เกิดการ แร้ง) บ้านโพธ์หญ้า และบ้านหลุบโพธ์ อยู่อาศัยเรื่อยมา
ี
ึ
ั
ตั้งบ้านเมืองในพื้นท่จังหวัดชัยภูมิข้นหลายแห่ง จนกระทงในปี พ.ศ. ๒๓๖๕ ท้าวแล (นายแล) พิจารณา
่
ึ
้
แต่สยามยังเผชิญสงครามกับอาณาจักรอังวะของพม่า เห็นว่าบ้านโนนน�าอ้อมเริ่มมีประชากรเพิ่มมากข้น
�
ิ
้
ี
ี
อยู่ตลอด จึงเป็นเหตุให้ราษฎรในพื้นท่เมืองชัยภูม ทาให้เริ่มขาดแคลนแหล่งน�า อีกทั้งยังเป็นพื้นท่แออัด
น่าจะถูกกวาดต้อนไปร่วมท�าสงครามด้วย คับแคบมากเกินไป จึงอพยพผู้คนและครอบครัว
ั
ี
การก่อตังเมองชัยภมอนมทต้งอย่บรเวณตัว ข้ามเข้ามาต้งหลักแหล่งในพื้นท่แห่งใหม่ นามว่า
ู
ี
ิ
ั
ี
่
ิ
ู
ื
้
ั
ั
ี
จังหวัดในปัจจุบันน้นก็ดังเช่นเมืองอื่นๆ ท่สืบค้นประวัติ “บ้านหลวง” (บริเวณหนองปลาเฒ่าในปัจจุบัน) และ
ั
ื
ี
้
็
่
จากเอกสารชนต้นได้ยาก อย่างไรกตาม มเรองเล่า เริ่มสร้างบ้านแปงเมืองขึ้นใหม่ ณ บริเวณพื้นที่แห่งนี้
ั
ั
ื
ุ
มขปาฐะสบต่อกนมาว่า ในรชสมยพระบาทสมเด็จ คร้นถึงรัชสมัยพระบาทสมเดจพระน่งเกล้า
็
ั
ั
ั
ื
พระพทธเลิศหล้านภาลัย (รัชกาลที ๒) เม่อราว พ.ศ. เจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๓) พ.ศ. ๒๓๖๗ - ๒๓๙๔ ผู้คน
ุ
่
๒๓๖๐ ได้มีขุนนางชาวลาว ข้าราชสานักของเจ้าอนุวงศ เข้ามาอาศัยมากขึ้น ประชากรบ้านหลวงก็เพิ่มมากขึ้น
์
�
แห่งเมืองเวียงจันทน์ มีนามว่า ท้าวแล (นายแล) ได้นา พระบาทสมเด็จพระน่งเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงทรงพระกรุณา
ั
�
ั
ชาวบ้านราษฎรจากเมืองเวียงจันทน์บางส่วนอพยพ โปรดเกล้าฯ ให้ยกฐานะ “บ้านหลวง” เป็น “เมืองชยภูมิ”
ั
ั
�
ิ
เข้ามาตั้งถ่นฐานทามาหากิน ในช่วงแรกน้นต้งบ้านเรือน และแต่งตั้งท้าวแล (นายแล) เป็น “พระภักดีชุมพล”
�
บริเวณพื้นท่ท่มีชื่อเรียกว่า “บ้านนาขุ่น” หรือหนองอีจาน เจ้าเมืองชัยภูมิคนแรก โดยการปกครองนั้นให้ข้นตรง
ี
ึ
้
ี
(ปัจจุบันอยู่ในเขตอ�าเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา) ต่อเมืองนครราชสีมาดังเดิม ต้องส่งส่วยทองคาและ
�
ทามาหากินได้ระยะหนึ่งถึงช่วง พ.ศ. ๒๓๖๒ ต้องอพยพ ของบรรณาการต่างๆ ให้กับทางกรุงเทพมหานคร
�
ผู้คนไปหาที่ตั้งถิ่นฐานแห่งใหม่ เนื่องจากบริเวณพื้นที่ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวนี ้
บ้านน�าข่นหรอหนองอจานนนมสภาพภมประเทศ มีเหตุการณ์สาคัญเกิดข้นคือเหตุการณ์ สงคราม
้
ี
�
ุ
ื
ั
้
ิ
ี
ู
ึ
�
ภูมิอากาศแห้งแล้ง ขาดแคลนแหล่งน�้า ท�าให้ชาวบ้าน เจ้าอนุวงศ์ ในช่วงปี พ.ศ. ๒๓๖๙ สาหรับเหตุการณ์ใน
ขาดแคลนน�าไว้ใช้ดมใช้กิน ท้าวแล (นายแล) จึงได้ ครงนในมมมองของราชสานักสยามนับเป็นเหตุการณ์
ื
้
ุ
่
ี
ั
�
้
้
�
ี
ี
�
นาชาวบ้านราษฎรอพยพไปหาท่ต้งถิ่นฐานใหม่ กบฏคร้งสาคัญท่ส่งผลมาถึงหัวเมืองใหญ่อย่างเมือง
ั
ั
�
ื
ี
ั
ี
ี
้
�
ี
จนมาพบททเรยกว่า “บ้านโนนนาอ้อม” (ปัจจุบนคอ นครราชสีมา ในขณะท่สาหรับชาวลาวนับเป็นความ
่
่
้
�
บ้านชีลอง บ้านโนนนาอ้อมอยู่ระหว่างชุมชนบ้าน พยายามในการปลดแอกจากอ�านาจของอาณาจักร
ขี้เหล็กใหญ่ เทศบาลเมืองชัยภูมิกับบ้านหนองนาแซง สยามและเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองครั้งส�าคัญ สอดคล้อง
และบ้านโนนกอก มีระยะห่างจากศาลากลางจังหวัด กับมุมมองของชาวลาวในปัจจุบันท่ได้ยกย่องเจ้าอนุวงศ์
ี
ชัยภูมิเพียง ๖ กิโลเมตร) ท้าวแล (นายแล) นาชาวบ้าน แห่งอาณาจักรล้านช้างเป็นวีรบุรุษและศูนย์รวมจิตใจ
�
ช่วยกันพัฒนาทานุบารุงบ้านโนนนาอ้อม จนบ้านเมือง ของคนในชาติ สงครามเจ้าอนุวงศ์เป็นสงครามระดับ
้
�
�
�
ี
มความมนคงเป็นปึกแผ่น เป็นพื้นท่ทาเลทเหมาะกับ ภูมิภาคแห่งการปลดแอกของอาณาจักรล้านช้าง
ี
ั
่
ี
่
�
การประกอบอาชีพทามาหากิน จึงมีผู้คนอพยพเข้ามา เมืองระหว่างทางอย่างชัยภูมิก็มิอาจหลบเล่ยงได้ ดังที่
ี
�
�
ั
ิ
ต้งถ่นฐานอาศัยอยู่เป็นจ�านวนมาก จึงกาเนิดหมู่บ้าน ได้กล่าวไปข้างต้นแล้วว่าบริเวณจังหวัดชัยภูมิปัจจุบัน
ึ
�
ี
ข้นอีก ๑๓ หมู่บ้าน ประกอบด้วย บ้านสามพัน เป็นจุดยุทธศาสตร์และเส้นทางเดินทัพท่สาคัญระหว่าง
บ้านกุดตุ้ม บ้านบ่อแก บ้านโนนโพธิ์ บ้านบุ่งคล้า สองอาณาจักร ในระหว่างสงครามน้ เจ้าอนุวงศ์ได้
ี
บ้านบ่อหลุบ (ระหว่างท้ายบ้านโพนทองกับบ้านผือ เกลี้ยกล่อมเจ้าเมืองรายทางระหว่างเดินทัพซึ่งเป็น
10 สมุดภาพชัยภูมิ