Page 9 - :: สมุดภาพอุบลราชธานี ::
P. 9

พื้นภูมิเมืองอุบลราชธานี




                   ก่อนการก่อตั้งเมืองอุบลราชธานีใน พ.ศ. ๒๓๓๔ นั้น   บรรณาการ มีสิทธิสะสมไพร่พลอย่างเสรี เป็นอิสระ ไม่ขึ้นกับ
                                                                                          ื
            เดิมพื้นที่ภาคอีสาน ตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์กล่าวว่า  เวียงจันทน์  มีชื่อว่า  “นครเข่อนขันธ์กาบแก้วบัวบาน”
            ชนชาติละว้า (ข่า, ขมุ) ได้เข้ามาปกครองอยู่ก่อนพวกขอม  สันนิษฐานว่าน่าจะมีฐานะเป็นเมืองลูกหลวง
            พวกละว้ามีความเจริญรุ่งเรืองในการปกครอง อยู่ในอาณาจักร     ต่อมาพระเจ้าสุริยวงศาธรรมิกราชให้เจ้าอินทกุมาร

                        ั
                                    ี
                                  ึ
                                                                                                ึ
            โคตรบูรณ์ ต้งราชธานีข้นท่เมืองนครพนม ต่อมาหลาย      อภิเษกสมรสกับพระราชธิดาพระองค์หน่ง ได้โอรส คือ เจ้าคา
                                                                                                               �
                     ื
                                  �
                                                   �
            ร้อยปีก็เส่อมอ�านาจลง ทาให้พวกขอมได้แผ่อานาจเข้ามา  หรือเจ้าองค์นก  ให้เจ้านางจันทกุมารีอภิเษกสมรสกับ
                    ี
            ปกครองท่แคว้นโคตรบูรณ์ของละว้าราว พ.ศ. ๑๔๐๐ พวกขอม  พระอุปยุวราช ได้พระโอรส คือ เจ้ากิ่งกิสราชและเจ้าอินทโสม
                                                ี
            ได้กวาดต้อนและขับไล่ละว้าไปอยู่ท่อ่น พวกท่ยังคงอยู่ก็กลาย  (ซ่งต่อมาคือบรรพบุรุษของเจ้านายหลวงพระบาง) ส่วนเจ้าปางคา
                                                                  ึ
                                         ื
                                        ี
                                                                                                               �
            เป็นขอมไป                                           ให้อภิเษกสมรสกับพระราชนัดดา ได้โอรสคือพระวอพระตา
                   ต่อมาราว พ.ศ. ๑๙๐๐ พระเจ้าฟ้างุ้ม กษัตริย์ลาว  สันนิษฐานว่าท้งสองท่านเป็นเสนาบดีกรุงศรีสัตนาคนหุต
                                                                             ั
            ล้านช้างได้ส่งกองทัพเข้ามายึดครองดินแดนภาคอีสาน ขับไล่  ตั้งแต่สมัยพระไชยเชษฐาธิราชที่ ๒ (ไชยองค์เว้) พระอัยกา
            พวกขอมหนีไปอยู่ทางเขมรบ้าง กวาดต้อนไปไว้ทางล้านช้าง  ของพระเจ้าสิริบุญสาร
            บ้าง ดินแดนภาคอีสานจึงกลายเป็นเมืองร้างมานาน เกิดเป็น      เจ้าสรบญสารนันได้ข้นครองราชสมบติโดยการช่วย
                                                                            ิ
                                                                           ิ
                                                                                                     ั
                                                                                        ึ
                                                                                   ้
                                                                             ุ
                                               ี
                           ี
            ป่าดงพงพี เป็นท่อยู่อาศัยของพวกคนป่าท่สืบเชื้อสายมาแต่  เหลอสนบสนุนจากพระวอพระตา ทรงพระนามว่า พระเจ้า
                                                                       ั
                                                                   ื
            ขอมเรียกกันว่า ข่า, ส่วย, กวย ซึ่งมีจ�านวนไม่มาก มักอาศัย  สิริบุญสาร ตรงกับปีที่กรุงศรีอยุธยาเสียแก่พม่าคร้งสุดท้าย
                                                                                                         ั
                                 ื
                                               ื
                                    ี
            อยู่ตามภูเขาและป่าทึบ เคล่อนท่อยู่เสมอจนได้ช่อว่า ข่าตองเหลือง   ทางด้านหลวงพระบางอยู่ในสมัยพระเจ้าสุริยวงศ์ (เจ้าองค์นก)
            หรือผีตองเหลือง ทาเพิงมุงด้วยใบตองอยู่ตามซอกหินหรือ  น้องชายเจ้าอินทโสมได้ครองราชสมบัติ
                             �
            โคนต้นไม้ใหญ่ พอใบไม้เหลืองแห้งก็ย้ายหาที่อยู่ใหม่         เจ้าสิริบุญสารนั้น บางตานานว่าเป็นบุตรพระยา
                                                                                           �
                         ื
                      ั
                   คร้นเม่อชนชาติไทยลาวท่อยู่ข้างเหนือ  มีเมือง  เมืองแสนที่ถูกเจ้าองค์หล่อจับฆ่า ได้หลบหนีไปพึ่งพ�านัก
                                          ี
                                           ั
                                                                                      ี
            ศรีสัตนาคนหุตเป็นต้น ได้อพยพลงมาต้งหลักแหล่งทามาหากิน  อยู่กับบิดาพระวอพระตาท่หนองบัวลุ่มภู เมื่อเจ้าองค์หล่อ
                                                     �
                                                                                               �
                                                 ิ
               ู
                                                    ุ
                                          ึ
                                          ่
                                                ่
                                                ี
                               ื
            อย่ตามล่มแม่นาโขงหรอแม่นาของ ซงเป็นทดนอดมสมบรณ์     ส้นพระชนม์จึงขอให้พระวอพระตายกกาลังมายึดเวียงจันทน์
                                                                 ิ
                                                          ู
                        ้
                        �
                                    ้
                   ุ
                                    �
                                                                                               ็
            ด้วยข้าวปลาอาหาร เบ้องแรกก็เข้าอยู่ตามลุ่มแม่น�าโขงก่อน  จนได้ราชสมบัติ เมื่อได้ราชสมบัติแล้วกทรงแต่งตั้งข้าราชการ
                               ื
                                                     ้
                                                     ้
                                                     �
                                           ี
                                        ้
                                        �
            แล้วแผ่ขยายไกลออกไปตามสายนาท่ไหลตกแม่นาโขง เช่น  ทุกต�าแหน่งทั้งฝ่ายทหารและพลเรือน พระวอพระตาขอเป็น
            ล�าน�้ามูล ล�าน�้าชี และล�าน�้าเซ เป็นต้น กลุ่มคนเหล่านี้ไปอยู่  อุปราช พระเจ้าสิริบุญสารไม่ทรงโปรด ให้เป็นเพียงต�าแหน่ง
                                                         ิ
                                                            ั
                                                                                                          �
                                                                             �
              ี
            ท่ไหนก็ช่วยกันบุกเบิกก่อสร้างทาความเจริญให้แก่ท้องถ่นน้น    เสนาบดี บางตานานว่าพระวอพระตาได้เพียงตาแหน่ง
                                      �

            แหล่งใดมีคนอยู่มากก็มีหัวหน้าปกครองยกข้นเป็นเมือง  นายกองนอกไปรักษาด่านอยู่บ้านหินโงม พระวอพระตา
                                                   ึ
            โดยถือลัทธิการปกครองแบบกรุงศรีสัตนาคนหุตเป็นหลัก  มีความเสียใจท่ได้ท�าการช่วยเหลือจนได้ราชสมบัติแล้ว
                                                                             ี
            คณะปกครองก็มีเจ้าเมือง อุปราช ราชวงศ์ ราชบุตร เรียกกันว่า    ไม่ชุบเลี้ยงตนตามสมควร
                               ี
            คณะอาญาส่ (อาชญาส่) เทียบกับจตุสดมภ์แห่งกรุงศรีอยุธยา      พ.ศ. ๒๓๑๑ ตรงกับต้นรัชสมัยพระเจ้ากรุงธนบุร   ี
                      ี
            มีเวียง วัง คลัง นา                                 พระวอพระตา เสนาบดีเมืองเวียงจันทน์ เกิดขัดใจกับพระเจ้า
                   ในต�านานเมืองอุบลเกือบทุกเล่มกล่าวเป็นความ  สิริบุญสารอย่างรุนแรง เนื่องมาจากเหตุที่พระเจ้าสิริบุญสาร
                              ื
            เดียวกันถึงการสืบเช้อสายจากเจ้านครเชียงรุ้งแสนหวีฟ้า  ไม่พอใจพระวอพระตาท่เคยเป็นผู้ฝักใฝ่อยู่กับหลวงพระบาง
                                                                                   ี
            ของเจ้าปางคา พระบิดาของพระวอ พระตา โดยกล่าวถึง   มาก่อน ตั้งแต่ครั้งช่วยให้เจ้ากิ่งกิสราช เจ้าอินทโสมได้หลบหนี
                        �
            พ.ศ. ๒๒๒๘ เกิดวิกฤตทางการเมืองในนครเชียงรุ้ง เน่องจาก  ไปอยู่เมืองล่าเมืองพง จึงคิดกาจัดตัดทอนกาลังของพระวอ
                                                                                         �
                                                       ื
                                                                                                    �
            จีนฮ่อหัวขาว หรือฮ่อธงขาว ยกกาลังเข้าปล้นเมืองเชียงรุ้ง  พระตา โดยรับส่งให้มีพระราชสาส์นไปสู่ขอเอาบุตรหญิงพระตา
                                                                            ั
                                        �

                                                                 ื
                                                             ี
            เจ้านครเชียงรุ้ง ได้แก่ เจ้าอินทกุมาร เจ้านางจันทกุมาร  ช่อ แสนสีชาติ มาเป็นสนมและให้ส่งบุตรชายทุกคนเข้าไป
                    �
            เจ้าปางคา อพยพไพร่พลจากเมืองเชียงรุ้งมาขอพึ่งพระเจ้า  รับราชการในเมืองหลวงด้วย พระวอพระตาเห็นว่าเป็นการ
                                                             ิ
            สุริยวงศาธรรมิกราชแห่งเวียงจันทน์ซ่งเป็นพระประยูรญาต  ดูหมิ่นและมีเจตนาไม่บริสุทธิ์ จึงนึกโกรธแค้นมาก ประกอบ
                                           ึ
                                                                                                               ึ
            ทางฝ่ายมารดา พระเจ้าสุริยวงศาธรรมิกราชให้การต้อนรับ  กับเหตุขัดเคืองหลายประการดังกล่าวมาแล้ว อยู่มาวันหน่ง
                                                                                                         ่
                                                                                                         ี

                                             ่
                                             ี
                                          ้
                                                             ู
                                                                                   ึ
            เป็นอย่างดี โปรดให้น�าไพร่พลไปตังทเมืองหนองบัวลุ่มภ  พระวอพระตาจึงได้ปรกษาพรรคพวกดูว่า การทพระเจ้า
                                                                                    ี
            เมืองหนองบัวลุ่มภูจึงอยู่ในฐานะพิเศษ คือ ไม่ต้องส่งส่วย  มหาชีวิตกระทาการดังน้ใครจะเห็นอย่างไร พวกญาติพี่น้อง
                                                                            �
                                                                                         สมุดภาพอุบลราชธานี   7
                                                                                                           Ÿ
   4   5   6   7   8   9   10   11   12   13   14