Page 10 - :: สมุดภาพนครน่าน ::
P. 10
น่าน : พัฒนาการทางประวัติศาสตร์และสังคมเมือง
สมเจตน์ วิมลเกษม*
ชาวไทยกลุ่มหนึ่งภายใต้การน�าของพญาภูคาที่ได้ ของกรุงสุโขทัยและศิลาจารึกหลักที่ ๖๔ พบูที่วัดพระธาตุ
ครอบูครองพื�นที่ราบูทางตอนบูนของจังหวัดน่านและตั�ง ช้างค��าวรวิหาร จังหวัดน่าน กล่าวคือ การท�าสัตย์สาบูานกัน
ศูนย์กลางการปกครองอยู่ที่เมืองย่าง ซึ่งเชื่อกันว่าตั�งอยู่ใน ระหว่างปู่พญา (พญาผากอง) กับูหลาน (พระมหาธรรมราชาที่
เขตบู้านเสี�ยว หมู่ที่ ๗ ต�าบูลยม อ�าเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน ๒) ใน พ.ศ. ๑๙๓๕ จารึกทั�ง ๒ หลักนี�เปรียบูเสมือนเป็น
ยังปรากฏร่องรอยของคูน��าคันดินเป็นแนวก�าแพงเมืองซ้อนกัน สนธิสัญญาระหว่างประเทศ คือนครรัฐสุโขทัยกับูเมืองน่าน
อยู่หลายชั�น ต่อมาประมาณิ พ.ศ. ๑๘๒๕ เจ้าขุนฟอง และไม่ปรากฏว่าสุโขทัยท�าสนธิสัญญาเยี่ยงนี�กับูเมืองใดอีก
ราชบูุตรบูุญธรรมของพญาภูคา ได้น�าก�าลังพลไปตั�งเมืองปัว (ประชุมศิลาจารึกภาคที่ ๓ จารึกหลักที่ ๔๕ และ ๖๔: ๖๒ - ๖๗
หรือเมืองวรนครขึ�นอีกเมืองหนึ่งบูริเวณิที่ราบูแถบูต�าบูล และ ๑๔๘ - ๑๕๑)
ศิลาเพชรและต�าบูลปัว อ�าเภอปัวซึ่งจากการส�ารวจได้พบู เมืองน่านรับูศาสนาพุทธนิกายลังกาวงศ์เก่าจาก
ชุมชนโบูราณิ ๔ แห่งด้วยกัน (กรมศิลปากร, ๒๕๓๐:๓) สุโขทัยในรัชกาลพระเจ้าลิไทย เพราะได้ทรงพิจารณิาว่า
ความส�าคัญของน่านในด้านเศรษฐกิจคือเป็นแหล่ง การเผยแพร่ศาสนาเข้าไปจะมีผลยั่งยืนกว่าการขยายอ�านาจ
ผลิตเกลือที่ส�าคัญแหล่งหนึ่งของอาณิาจักรล้านนา ซึ่งอาจเป็น ด้วยก�าลังรบู โดยพระมหาสุมนเถรน�าอักษรสุโขทัยเข้าไปสู่
เหตุผลอธิบูายขอบูข่ายการค้าที่กว้างขวางของพ่อค้าจากน่าน ล้านนาพร้อมกับูศาสนาพุทธนิกายลังกาวงศ์เก่า เมื่อ พ.ศ. ๑๙๑๒
ซึ่งท�าหน้าที่เป็นพ่อค้าคนกลางเดินทางรับูซื�อและขายสินค้า ในระยะเวลาเดียวกันกับูที่เจ้าเวสภูไปเมืองน่าน (จารึกหลักที่
จากเมืองต่างๆ ในอาณิาจักรล้านนาไทย เช่น เข้ามาค้าขาย ๖๒ วัดพระยืน จังหวัดล�าพูน)
ที่เชียงแสน เมืองเศรษฐกิจที่อยู่ติดกับูแม่น��าโขง (ต�านาน ต่อมาถึง พ.ศ. ๑๘๙๖ พญาการเมืองได้น�าพระธาตุ
พื�นเมืองเชียงใหม่, ๒๕๒๗: ๓๙) และพระพิมพ์จากกรุงสุโขทัยมาบูรรจุไว้ที่วัดพระธาตุแช่แห้ง
นอกจากนั�นแล้วเครื่องปั�นดินเผาจากบู้านบู่อสวกซึ่ง ต่อมาประมาณิ พ.ศ. ๑๙๒๐ พญาการเมืองได้ย้ายลงมา
เกิดขึ�นระหว่าง พ.ศ. ๑๗๗๒ - ๒๑๐๓ ก็น่าจะเป็นสินค้าออก สร้างเมืองใหม่บูริเวณิที่ราบูทางตอนล่าง การย้ายเมืองครั�งนี�
อีกประเภทหนึ่งของน่าน (โบูราณิคดีชุมชนที่เมืองน่าน: ๕๓) อาจเป็นเพราะผู้คนในที่ราบูทางตอนบูนเริ่มอยู่อาศัยกัน
ด้วยความส�าคัญทางด้านเศรษฐกิจของน่านท�าให้ หนาแน่นยิ่งขึ�น เป็นโอกาสที่จะขยับูขยายอาณิาเขตของนครรัฐ
ทั�งอาณิาจักรสุโขทัย อาณิาจักรอยุธยาและอาณิาจักรล้านนา ให้กว้างขวางออกไปจรดเขตนครรัฐแพร่ซึ่งอยู่ทางด้านใต้
พยายามทั�งที่จะผูกมิตรกับูน่านและมีความคิดจะเข้าครอบูครอง อีกทั�งชัยภูมิที่ตั�งใหม่ยังอยู่ในระยะทางที่สะดวกต่อการติดต่อ
เมืองน่าน ระหว่างหัวเมืองในเขตปกครองของตน โปรดประทานชื่อให้
ในสมัยราชวงศ์มังราย อาณิาจักรล้านนาได้พยายาม เมืองใหม่ว่า “เมืองภูเพียงแช่แห้ง” ปัจจุบูันยังพบูร่องรอยเป็น
ยกทัพไปตีน่านในสมัยพญาค�าฟู (พ.ศ. ๑๘๗๑ - ๑๘๗๗) หลักฐานของเมืองที่มีคูน��าคันดินล้อมรอบูถึง ๒ ชั�น
แต่ไม่ส�าเร็จ พันธมิตรที่ส�าคัญของน่านคือสุโขทัยที่มี เนื่องจากความสัมพันธ์อันดีระหว่างน่านกับูสุโข
ความสัมพันธ์กันทางพระพุทธศาสนา ปรากฏจากหลักฐาน ทัย ท�าให้แคว้นอยุธยาที่มีนโยบูายเข้าครอบูครองสุโขทัยจึง
ที่กล่าวถึงเจ้าเมืองสุโขทัยได้ทูลเชิญพญาการเมือง เจ้าเมือง พยายามตัดก�าลังของเมืองน่านโดยส่งขุนนางมาลอบูปลง
น่าน (พ.ศ. ๑๘๙๖ - ๑๙๐๒) ไปช่วยพิจารณิาในการสร้าง พระชนม์เจ้าผู้ครองนครน่านถึง ๒ ครั�ง ตามที่ระบูุไว้ใน
วัดที่อาณิาจักรสุโขทัย (ประชุมพงศาวดาร เล่ม ๙: ๓๐๒) พงศาวดารน่าน ครั�งแรก คือสมัยของพญาการเมือง เมื่อ
นอกจากนั�นยังมีหลักฐานความสัมพันธ์ทางเครือญาติ พ.ศ. ๑๙๐๖ ครั�งนี�จึงเป็นมูลเหตุให้เจ้าพญาผากองพระโอรส
ระหว่างน่านกับูสุโขทัย เห็นได้จากศิลาจารึกหลักที่ ๔๕ เสด็จจากเวียงวรนครลงมาจัดการบู้านเมือง พระองค์โปรดให้
* ครูภูมิปัญญาไทย รุ่นที่ ๔ สภาการศึกษาแห่งชาติ ด้านภาษาและวรรณิกรรม
8 สมุดภาพินครั้น่าน