Page 11 - :: สมุดภาพอุดรธานี ::
P. 11
ี
�
�
ใน พ.ศ. ๒๔๓๓ ช่วงเวลานั้นดินแดนอินโดจีนกาลังถูกคุกคามจากชาติมหาอ�านาจยุโรปท่กาลังออกล่าอาณานิคม
�
ในภูมิภาคน้ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงได้ทรงดาเนินการจัดรูปแบบการปกครองในอีสานและลาวท่อยู่ใน
ี
ี
�
�
ี
พระราชอาณาจักรสยามให้เหมาะสม โดยแบ่งการปกครองเป็น ๔ เขต คือ หัวเมืองลาวฝ่ายตะวันออกมีท่ทาการอยู่นครจาปาศักด ิ ์
หัวเมืองลาวฝ่ายตะวันออกเฉียงเหนือมีท่ทาการอยู่เมืองอุบลราชธานี หัวเมืองลาวฝ่ายกลางมีท่ทาการอยู่เมืองนครราชสีมา และ
ี
�
ี
�
หัวเมืองลาวฝ่ายเหนือมีที่ทาการอยู่เมืองหนองคาย
�
ต่อมา พ.ศ. ๒๔๓๔ ได้มีการเปล่ยนแปลงเขตการปกครองในอีสานและลาวอีกคร้ง โดยหัวเมืองลาวฝ่ายเหนือได้เปล่ยน
ี
ั
ี
เป็นหัวเมืองลาวพวน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่น
ี
ประจักษ์ศิลปาคม เป็นข้าหลวงใหญ่ และหม่อมเจ้าวัฒนา ข้าหลวงท่ ๒ ไปจัดราชการหัวเมืองลาวพวน ประจ�าอยู่ ณ เมืองหนองคาย
จนถึง พ.ศ. ๒๔๓๕ ได้มีการปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดินเป็นอย่างใหม่ มีการจัดรูปแบบปกครองในหัวเมืองข้นใหม ่
ึ
้
ึ
ี
ั
ู
ั
ั
ั
ั
ื
้
ั
ี
่
ู
ี
ั
รวมการบงคบบญชาทงปวงให้ขนอย่กบกระทรวงมหาดไทยเพียงกระทรวงเดยว และให้รวมหวเมองต่างๆ ทอย่ใกล้เคยงกน
ั
เข้าเป็นมณฑล ดังน้นหัวเมืองลาวพวนจึงถูกเปล่ยนชื่อเป็นมณฑลลาวพวน มีพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหม่นประจักษ์ศิลปาคม
ี
ื
เป็นข้าหลวงผู้ส�าเร็จราชการมณฑลลาวพวนคนแรก
ั
คร้นเม่อเกิดกรณีพิพาทเร่องดินแดนระหว่างสยามกับฝร่งเศส หรือท่เรียกว่าวิกฤตการณ์ ร.ศ. ๑๑๒ (พ.ศ. ๒๔๓๖)
ื
ี
ื
ั
ฝรั่งเศสได้อ้างสิทธิเหนือดินแดนฝั่งซ้ายของแม่น�้าโขงซึ่งเคยเป็นเมืองขึ้นของเขมรและญวณ ฝรั่งเศสได้ส่งเรือปืน ๒ ล�าเข้ามา
ในปากแม่น�าเจ้าพระยาโดยมาจอดทอดสมออยู่ท่หน้าสถานทูตฝร่งเศสในกรุงเทพฯ และบีบบังคับให้สยามยอมลงนามในสนธิสัญญา
ั
้
ี
กับฝร่งเศส เม่อวันท่ ๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๓๖ ซึ่งผลของสนธิสัญญาน้นทาให้ดินแดนบนฝั่งซ้ายของแม่นาโขงและเกาะต่างๆ
ี
ื
้
ั
ั
�
�
ตกเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส และในสนธิสัญญาเงื่อนไขข้อที่ ๓ ได้ระบุไว้ว่า “คอเวอนแมนต์สยามจะไม่ก่อสร้างค่ายคู ฤๅที่อยู่
ของพลทหารในแขวงเมืองพระตะบอง แลเมืองเสียมเรียบ แลในจังหวัด ๒๕ กิโลเมตร (๖๒๕ เส้น) บนฝั่งขวาฟากตวันตกแม่น�้า
โขง” นอกจากนี้ยังมีข้อก�าหนดในสัญญาน้อย ผนวกท้ายสัญญาเกี่ยวกับการถอนทหาร ข้อที่ ๒ ระบุไว้ว่า “บรรดาป้อมค่ายคู อัน
อยู่ในจังหวัดที่กล่าวไว้ในข้อที่ ๓ ของหนังสือสัญญาฉบับใหญ่ที่ท�าไว้ในวันนี้แล้ว จะต้องรื้อถอนเสียให้สิ้น...”
ั
ี
จากสนธิสัญญาท่สยามได้ทากับฝร่งเศสนี้เอง เป็นเหตุให้พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหม่นประจักษ์ศิลปาคม จาต้องย้าย
�
�
ื
ื
ี
�
ี
ึ
ท่บัญชาการมณฑลลาวพวนท่เมืองหนองคายมาตั้งยัง “บ้านเด่อหมากแข้ง” ซ่งก็คือบริเวณพื้นท่ของต�าบลหมากแข้ง อาเภอเมือง
ี
ื
�
อุดรธานีในปัจจุบัน มีระยะทางห่างจากแม่นาโขงประมาณ ๕๐ กิโลเมตร โดยพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหม่นประจักษ์ศิลปาคมได้แจ้ง
้
ี
ผ่านทางโทรเลขไปยังกระทรวงมหาดไทย ความว่า “ได้ยกออกจากเมืองหนองคายในวันท่ ๑๖ มกราคม ได้เดินทางถนนรัชฎาภิเษก”
และอีกฉบับว่า “ได้ยกมาถึงบ้านหมากแค่ง วันที่ ๑๘ มกราคม” จึงถือว่าพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นประจักษ์ศิลปาคมได้เสด็จ
ี
ั
ื
ถึงบ้านเด่อหมากแข้งในวันท่ ๑๘ มกราคม พ.ศ. ๒๔๓๖ ตามปีปฏิทินไทย และถือว่าเป็นวันก่อต้งเมืองอุดรธานีอย่างเป็นทางการ
นับแต่นั้นเป็นต้นมา
สาเหตุที่ทรงเลือกเอาบริเวณบ้านเดื่อหมากแข้งเป็นที่ตั้งที่บัญชาการมณฑลลาวพวนนั้น พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่น
ี
ื
ี
ประจักษ์ศิลปาคมทรงได้มีจดหมายกราบบังคมทูลช้แจงถึงประโยชน์ของตาบลบ้านเด่อหมากแข้งก่อนท่จะทรงย้ายท่บัญชาการ
�
ี
จากเมืองหนองคายมายังบริเวณบ้านเดื่อหมากแข้ง ความว่า
“(๑) ถ้าฝรั่งเศสคิดข้ามมาจับฟากข้างนี้แล้วคงจะจับเมืองหนองคายก่อน เพราะเปนเมืองบริบูรณ์ ถ้ามาจับหนองคาย
แล้วจะได้มาโต้ทันเวลา
(๒) บ้านนี้ระยะทางกึ่งกลางที่จะไปมาบังคับราชการเขตลาวพวนได้ตลอด
(๓) โทระเลขในแขวงลาวพวนต้องมารวมในบ้านนี้ทั้งสิ้น
่
่
ี
้
้
ู
็
(๔) เสบยงอาหารแตกอนมาเขาทจะเลยงไพรพลนัน ดวยเมองลาวหาไดเกบเงนคานาไม เกบแตหางเขาตามพรรณเขาปลก
่
้
้
้
่
ี
ื
้
ี
็
่
ิ
้
่
่
ึ
ี
ข้นฉางไว้ ถ้ามีข้าหลวงฤๅกองทัพก็ต้องจ่ายเล้ยงข้าหลวงแลกองทัพ ถ้าส้นเข้าคงฉางแล้ว จึงต้องจ่ายเงินหลวงจัดซ้อเพิ่มเติม
ื
ิ
ถ้าข้าหลวงตั้งอยู่เมืองน้อยๆ เข้าไม่พอก็ต้องจัดซื้อ ไม่ได้ใช้ขนเข้าเมืองอ่นมาเจือจาน ท่ต�าบลบ้านนี้เปนบ้านอยู่ในระหว่างเมืองหนองคาย
ื
ี
ี
เมืองหนองหาร ขอนแก่น เมืองกุมภวาปี เมืองกมุทาไสย จะได้ใช้เสบียงเมืองเหล่าน้ ไม่ต้องออกเงินหลวงให้เปลืองพระราชทรัพย์
ี
้
(๕) เมืองสกลนคร แม้ว่าจะเป็นท่ภูมิถานใหญ่โตสบายก็จริง แต่ในปีน้น�าท่วมเสบียงอาหารเสียส้น ถ้าจะยกกองข้าหลวง
ี
ิ
ี
ึ
ึ
ไปตั้งก็จะต้องเสียเงินมาก แลจะไม่มีท่ซื้อเข้าด้วย อน่งระยะทางโทระเลขต้งแต่กรุงเทพฯ ข้นไปหนองคาย อย่างเร็ว ๘ วัน
ั
อย่างช้า ๑๒ วัน ถ้าที่เมืองสกลนคร โทระเลขจะต้องอย่างเร็ว ๑๔ วัน อย่างช้า ๑๘ วัน
สมุดภาพอุดรธานี 9