Page 11 - •-- สมุดภาพเพชรบูรณ์ --•
P. 11
ี
สภาพบ้านเมืองท่แสดงว่าเพชรบูรณ์เป็นศูนย์กลางในการรวบรวมสินค้าของป่าจากหัวเมืองต่างๆ ส่งออกผ่าน
�
ี
กรุงศรีอยุธยา ดังนี้ “...เรือหางเหย่ยวเมืองเพชรบูรณ์นายม บรรทุกคร่ง กายาน เหล็กหางกุ้ง เหล็กหล่มเลย
ั
เหล็กน�้าพี้ ไต้ หวาย ชัน น�้ามันยาง ยาสูบ เขา หนัง หน่องา สรรพสินค้าตามเพศบ้านเพศเมือง มาจอดเรือขาย
ตามแถวปากคลองสวนพลู ตลอดจนหน้าวัดเจ้าพระนางเชิง...”
ในสมัยกรุงธนบุรี พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ในขณะนั้นดำารงตำาแหน่งเป็น
ี
ี
เจ้าพระยาจักรี ได้นำาทัพต่อสู้กับพม่าท่พิษณุโลก ต่อมาเสบียงขาดแคลน จึงได้ล่าทัพมาสะสมเสบียงท่เพชรบูรณ์
ก่อนจะเดินทัพกลับไปต่อสู้กับพม่า ได้ทรงเสด็จมานมัสการพระพุทธรูปเอาฤกษ์เอาชัยท่วัดมหาธาตุ คร้งพอเสด็จ
ั
ี
ออกมายังไพร่พลก็ได้เปล่งเสียงเรียกขวัญว่า “มีชัย” ๓ ครั้ง พระพุทธรูปองค์นั้นจึงได้ชื่อว่า “หลวงพ่อเพชรมีชัย”
มาจนทุกวันนี้
สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ มีกล่าวในพงศาวดารรัชกาลท่ ๓ ได้มีบันทึกการสู้รบในคร้งศึกเจ้าอนุวงศ์แห่ง
ั
ี
เวียงจันทน์ ที่เมืองเพชรบูรณ์และเมืองหล่มสัก ซึ่งได้เป็นสมรภูมิการศึกระหว่างทัพไทยกับทัพลาวที่สำาคัญด้วย
ึ
ี
แห่งหน่ง จนถึงสมัยรัชกาลท่ ๕ ได้มีการจัดระเบียบการบริหารราชการในหัวเมืองข้นใหม่ โดยตั้งเมืองเพชรบูรณ์
ึ
์
ขึ้นเปน “มณฑลเพชรบูรณ” เมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๒ เพื่อเปนหัวเมืองเอกคอยปองกันราชอาณาจักรจากศัตรูทางเหนือ
้
็
็
มีข้าหลวงเทศาภิบาลปกครองสืบต่อกันมา ๓ ท่าน มีราชทินนามว่า พระยาเพชรรัตน์สงครามฯ และทรงโปรดเกล้าฯ
ให้ “สมเด็จฯ กรมพระยาดำารงราชานุภาพ” เสนาบดีกระทรวงมหาดไทยสมัยนั้น ได้เสด็จมาตรวจราชการเมือง
เพชรบูรณ์ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๗ และทรงพระนิพนธ์บันทึกเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับเมืองเพชรบูรณ์อย่างมากมาย
อยู่ในหนังสือ นิทานโบราณคดี ชื่อเรื่องว่า “ความไข้ที่เมืองเพชรบูรณ์” นอกจากนี้ยังทรงโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จ
พระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก ได้เฉลิมพระนามเม่อทรงกรมว่า “สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมขุนเพ็ชรบูรณ์
ื
อินทราชัย” อีกด้วย
ั
ี
ื
ล่วงเข้าสู่ยุคประชาธิปไตย สมัยสงครามโลกคร้งท่ ๒ พ.ศ. ๒๔๘๖ - ๒๔๘๗ เม่อจอมพล ป. พิบูลสงคราม
นายกรัฐมนตรี ได้ออกพระราชกำาหนดระเบียบบริหารราชการนครบาลเพชรบูรณ์ โดยตั้งใจจะย้ายเมืองหลวงมา
อยู่ที่เพชรบูรณ์ โดยให้เหตุผลว่า เพชรบูรณ์มีชัยภูมิเหมาะสม มีภูเขาล้อมรอบ มีเส้นทางคมนาคมเข้าออกเพียง
ทางเดียว มีภูมิประเทศสวยงาม อากาศดี อยู่ตรงกลางของประเทศ เป็นศูนย์กลางภาคเหนือกับภาคอีสานและ
กรุงเทพฯ โดยได้มีการย้ายหน่วยราชการ กระทรวง ทบวง กรม และหน่วยทหารต่างๆ มาไว้ที่เพชรบูรณ์เป็น
ำ
้
จำานวนมาก ทั้งยังได้ทำาพิธียกเสาหลักเมืองหลวงนครบาลเพชรบูรณ์ที่ตำาบลบุ่งนาเต้า อำาเภอหล่มสัก เมื่อวันที่
๒๓ เมษายน พ.ศ. ๒๔๘๗ อีกด้วย แต่ต่อมาได้ถูกยกเลิกไปโดยมติของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนั้น
ได้ก่อให้เกิดคุณูปการในการพัฒนาจังหวัดเพชรบูรณ์ในด้านต่างๆ อย่างมากมาย
ั
คร้นถึง พ.ศ. ๒๕๑๐ - ๒๕๒๕ ได้เกิดความขัดแย้งในแนวคิดทางการเมืองจนเกิดการสู้รบกันระหว่าง
รัฐบาลกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย โดยมีสมรภูมิอยู่ในเขตพื้นที่อำาเภอเขาค้อเป็นเวลากว่า ๑๔ ปี จึง
ั
ได้สงบลงจากนโยบายการเมืองนำาการทหารและไม่ใช้ความรุนแรงมาแก้ไขความขัดแย้งทางความคิด จากน้น
ั
จังหวัดเพชรบูรณ์จึงได้มีการพัฒนาให้เจริญรุ่งเรืองในทุกๆ ด้าน ท้งด้านเศรษฐกิจ สังคมการเมือง ด้านการเกษตร
ั
ด้านวัฒนธรรม ด้านส่งแวดล้อม ด้านการคมนาคม และพัฒนาให้เป็นเมืองท่องเท่ยวท่สำาคัญท้งทางธรรมชาติและ
ิ
ี
ี
ทางวัฒนธรรม จนมีการกำาหนดวิสัยทัศน์จังหวัดเพชรบูรณ์ว่า “ดินแดนแห่งความสุขของคนอยู่และผู้มาเยือน”
สมุดภาพเพชรบูรณ์ 9