Page 10 - •-- สมุดภาพอ่างทอง --•
P. 10
ต่อมาในสมัยสุโขทัย เข้าใจว่ามีผู้คนเข้ามาตั้งถิ่นฐานอยู่อาศัยมากขึ้นเรื่อยๆ และในท้องที่
ิ
ั
�
เมืองอ่างทองน่าจะได้รับอทธิพลจากสุโขทัย โดยการสังเกตจากลกษณะของพระพุทธรูปสาคัญใน
ท้องถิ่นเมืองอ่างทองมีลักษณะเป็นแบบสุโขทัย เช่น พระพุทธไสยาสน์วัดขุนอินทประมูล อ�าเภอ
โพธิ์ทอง และพระพุทธไสยาสน์วัดป่าโมกวรวิหาร อ�าเภอป่าโมก เป็นต้น
้
ั
ในสมัยอยุธยาตอนต้น แขวงเมืองวิเศษไชยชาญ ซ่งมีชัยภูมิต้งอยู่ริมแม่น�าน้อย ได้ปรากฏชื่อ
ึ
ั
เป็นคร้งแรกในพงศาวดาร ราว พ.ศ. ๒๑๒๗ ความว่า “สมเด็จพระนเรศวรเม่อคร้งยังทรงเป็นมหาอุปราช
ื
ั
ี
และสมเด็จพระเอกาทศรถ ได้เสด็จยกกองทัพไปรบกับพระยาพะสิมท่เมืองสุพรรณบุรี พระองค์ได้เสด็จ
ี
�
�
โดยทางเรือจากกรุงศรีอยุธยา ไปทาพิธีเหยียบชิงชัยภูมิตัดไม้ข่มนามท่ตาบลลุมพลี พระองค์ได้เสด็จ
ไปประทับที่แขวงเมืองวิเศษไชยชาญอันเป็นที่ชุมพล”
ส่วนเมืองอ่างทองที่มีชัยภูมิตั้งอยู่ริมสองฝั่งแม่น�้าเจ้าพระยา (แม่น�้าใหญ่) นั้น ถูกกล่าวชื่อ
ี
ื
ั
ี
คร้งแรกในสมัยพระเจ้าบรมโกศ ด้วยเร่องท่ว่าชาวเมืองอ่างทองขนข้าวไปขายท่อยุธยา เน่องด้วยเมือง
ื
�
อ่างทองมิได้อยู่ในเส้นทางทาศึกระหว่างไทยกับพม่าอย่างเมืองวิเศษไชยชาญ แต่มีหลักฐานปรากฏใน
�
ี
้
วัดท่อยู่ริมแม่นาเจ้าพระยา ตั้งแต่อาเภอไชโย อาเภอเมืองอ่างทอง และอาเภอป่าโมก (อาเภอในปัจจุบัน)
�
�
�
�
พบว่าวัดจ�านวนมากจะมีพระพุทธรูปหินทรายประดิษฐานเป็นส่วนใหญ่ อันเป็นศิลปกรรมในช่วงต้น
ของสมัยอยุธยา จึงเป็นเครื่องแสดงถึงการตั้งชุมชนในช่วงเวลาดังกล่าวด้วยเช่นกัน เมืองอ่างทองใน
สมัยอยุธยาตอนต้นจึงเสมือนเป็นอู่ข้าวอู่น�้าของกรุงศรีอยุธยามาตั้งแต่ครั้งนั้น
ั
ี
้
ื
ุ
ุ
ื
สมยอยธยาตอนกลาง เมองวิเศษไชยชาญมีทองท่ต่อเน่องกบกรงศรีอยุธยาเสมอนเป็นเมือง
ั
ื
ที่ตั้งอยู่ชานเมืองหลวง เนื่องจากมีประวัติศาสตร์เกี่ยวเนื่องกันหลายคราว เฉพาะครั้งส�าคัญๆ คือ
เมื่อราว พ.ศ. ๒๑๒๒ ญาณพิเชียรมาซ่องสุมคนในต�าบลยี่ล้น ขุนศรีมงคลแขวงส่งข่าวกบฏนั้นมา
ถวาย สมเด็จพระมหาธรรมราชาโปรดให้พระยาจักรียกกาลังไปปราบปราม ตั้งทัพในต�าบลมหาดไทย
�
ู
ญาณพิเชียรและพรรคพวกก็เข้าส้รบกบพระยาจักรี เจ้าพระยาจักรีเสียชีวิตในการสู้รบ พวกชาวบ้าน
ั
�
ก็เข้าเป็นพวกญาณพิเชียร ต่อมาญาณพิเชียรคิดเอาเมืองลพบุรี จึงยกกาลังไปปล้นเมืองลพบุร ี
ได้รบกับพระยาสีหราชเดโช ญาณพิเชียรถูกยิงตาย พรรคพวกกบฏก็หนีกระจัดกระจายไป กบฏญาณ
ี
พิเชียรนับว่าเป็นเหตุการณ์สาคัญมากเหตุการณ์หนึ่งท่ชาวบ้านย่ล้นและชาวบ้านมหาดไทย แขวง
ี
�
เมืองวิเศษไชยชาญเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย
ี
ั
�
ี
�
พ.ศ. ๒๑๒๘ พระเจ้าเชียงใหม่ยกกองทัพมาต้งท่บ้านสระเกษ ท้องท่ตาบลไชยภูมิ (อาเภอ
ไชโย) สมเด็จพระนเรศวรกับพระเอกาทศรถยกกองทัพไปถึงต�าบลป่าโมก ก็พบทหารพม่าซึ่งลงมา
เท่ยวรังแกราษฎรทางเมืองวิเศษไชยชาญ จึงได้เข้าโจมตีทหารพม่าล่าถอยไป พระเจ้าเชียงใหม่
ี
จึงได้จัดกองทัพยกลงมา สมเด็จพระนเรศวรจึงด�ารัสสั่งให้พระราชมนูคุมกองทัพขึ้นตระเวนดูก่อน
กองทัพพระราชมนไปปะทะกบกองทพพม่าทบานบางแกว สมเดจพระนเรศวรเสดจขนไปถงบานแห
่
ี
้
้
้
ั
็
ึ
้
ู
ั
็
ึ
�
จึงมีดารัสให้ข้าหลวงข้นไปส่งพระราชมนูให้ทาเป็นถอยทัพกลับมา แล้วพระองค์ก็โอบล้อมรุกไล่ตีทัพ
ั
ึ
�
ี
พม่าแตกท้งทัพหน้าและทัพหลวง จนถึงท่ต้งทัพพระเจ้าเชียงใหม่ท่บ้านสระเกษ กองทัพของพระเจ้า
ั
ั
ี
เชียงใหม่จึงแตกพ่ายกลับไป
พ.ศ. ๒๑๓๐ พระเจ้ากรุงหงสาวดียกทัพมาล้อมกรุงศรีอยุธยา ทหารไทยได้เอาปืนลงเรือ
�
สาเภาข้นไประดมยิงค่ายหลวงพระเจ้าหงสาวดี จนพระเจ้าหงสาวดีทนไม่ไหวต้องถอยทัพหลวง
ึ
กลับข้นไปต้งป่าโมก สมเด็จพระนเรศวรเสด็จโดยขบวนทัพเรือตามตีกองทัพหลวงของพระเจ้า
ึ
ั
หงสาวดีไปจนถึงป่าโมก จนพม่าแตกพ่ายถอยทัพกลับไป
ี
พ.ศ. ๒๑๓๕ สมเด็จพระนเรศวรกับพระเอกาทศรถยกทัพจากรุงศรีอยุธยาไปตั้งท่ทุ่งป่าโมก
ั
ุ
ุ
ื
้
ั
ี
ุ
�
้
้
แลวยกทพหลวงไปเมองสพรรณบรทางบานสามโก และทรงกระทายทธหัตถีกบพระมหาอุปราชาท ี ่
ต�าบลตระพังตรุ หนองสาหร่าย อ�าเภอดอนเจดีย์ เมืองสุพรรณบุรี จนมีชัยชนะยุทธหัตถี
พ.ศ. ๒๑๔๗ สมเด็จพระนเรศวรและสมเด็จพระเอกาทศรถยกกองทัพไปตีกรุงอังวะ เสด็จเข้า
พักพลท่ตาบลป่าโมก แล้วเสด็จไปทางชลมารคข้นเหยียบชัยภูมิต�าบลเอกราช อ�าเภอป่าโมก ตัดไม้ข่มนาม
�
ึ
ี
8 สมุดภาพอ่างทอง