Page 14 - ประมวลภาพเก่า งานศิลป์ และข้าวของจังหวัดระนอง
P. 14
ใน พ.ศ. ๒๕๐๔ รัฐบาลประกาศใช้
แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ฉบับแรก เกิดการขยายตัวทั้งภาค
เกษตรและอุตสาหกรรม ได้มีการเคลื่อน
ย้ายประชากรจากพื้นที่ต่างๆ เข้ามาสู่
จังหวัดระนองมากขึ้น ส่วนใหญ่จะมา
จากจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ตอนบนคือ
ชุมพร สุราษฎร์ธานี กระบี่ พังงา และ
นครศรีธรรมราช โดยเข้ามาจับจอง
พื้นที่รกร้างเพื่อทำาการเกษตรกรรม โดย
เฉพาะสวนยางพารา และมีชาวประมง
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้า จากจังหวัดด้านชายทะเลอ่าวไทย เช่น
สิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในคราวเสด็จพระราชดำาเนินจังหวัดระนอง เมื่อวันที่ เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และชุมพร เข้า
๗ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๐๒ มาทำาการประมงในฝั่งทะเลอันดามัน
อย่างต่อเนื่อง ทำาให้เศรษฐกิจของเมือง
ระนองได้ขยายตัวมาสู่ภาคเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมประมง ในส่วนของการทำา
่
เหมืองแร่ดีบุก ด้วยปริมาณของแร่ที่มีจำานวนลดลง ประกอบกับมีราคาตกตำา ทำาให้
บริษัทเหมืองแร่โดยส่วนใหญ่ประสบภาวะไม่คุ้มทุน ต้องยุติกิจการไปโดยปริยาย ใน
พ.ศ. ๒๕๓๖ บริษัท แฟร์มอนท์ สเตท จำากัด ตำาบลหงาว จึงเป็นเหมืองแร่ดีบุกแห่ง
สุดท้ายของจังหวัดระนองที่ได้ปิดตัวลง
ปัจจุบันจังหวัดระนองแบ่งเขตการปกครองเป็น ๕ อำาเภอ คือ อำาเภอเมือง
ระนอง อำาเภอกระบุรี อำาเภอละอุ่น อำาเภอกะเปอร์ และอำาเภอสุขสำาราญ ประชากร
ส่วนใหญ่ประกอบด้วยชาวไทยภาคใต้ ชาวไทยเชื้อสายจีน ชาวไทยเชื้อสายมลายู
และมีประชากรเชื้อสายพม่าบางส่วน มีจำานวนประชากรโดยประมาณ ๑๙๐,๐๐๐ คน
นับเป็นจังหวัดที่มีประชากรน้อยที่สุดของประเทศไทย แต่มีความหลากหลายของ
เชื้อชาติค่อนข้างมาก ด้วยเป็นพื้นที่ชายแดนและเป็นด่านสำาคัญในการติดต่อกับ
ประเทศเมียนมา จึงทำาให้ระนองเป็นเมืองประตูการค้าสำาคัญระหว่างไทยกับพื้นที่
ของสาธารณรัฐเมียนมาตอนใต้ เมืองระนองจึงยังคงเป็นเมืองที่มีความเจริญทาง
เศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง และยังมีความเป็นเมืองที่สงบและน่าอยู่อาศัยที่สุดอีกแห่งหนึ่ง
้
พร้อมด้วยความมีอัธยาศัยไมตรีโอบอ้อมอารีของผู้คน ความมีนำาใจเกื้อกูลกันที่ผสม
ผสานอยู่บนความหลากหลายทางเชื้อชาติและศาสนา ทำาให้เป็นเสน่ห์ของระนอง
ที่ผูกมัดจิตใจผู้คนให้ล้วนแต่อยากมาสัมผัสอยู่เสมอ
12 สมุดภาพเมืองระนอง
ranong hirest.indd 12 2/20/2562 BE 12:55
