Page 241 - :: สมุดภาพกรมทางหลวง เล่ม ๒ ::
P. 241

ชาวบ้านช่วยมัดกับเฝือกเสร็จแล้วยังสามารถยืนถ่ายรูปกับซาก  ก็ได้มาเฝ้าอยู่ที่วังไกลกังวลด้วย ครั้นคนของกรมรถไฟหลวง
               เครื่องบินได้ แถมยังเดินเท้าบุกป่าฝ่าดงกว่าจะได้นั่งเกวียนนั่งรถ  ไม่กล้าจัดขบวนรถให้ตามที่ทางวังสั่งไป เพราะกลัวอ�านาจนาย
               ต่อรถไฟจนมาถึงกรุงเทพ แล้วเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลศิริราช  พันเอกพระวิสดารดุลยะรัถกิจ อธิบดีกรมรถไฟคนใหม่ที่รัฐบาล
               เพียงเดือนเศษเท่านั้นก็หายเป็นปกติ               เพิ่งส่งมารับต�าแหน่งมากกว่า เจ้ากาจึงอาสาที่จะไปกับท่านชิ้น
                      ฉายาวิศวกรกระดูกเหล็กคงได้มาแต่บัดนั้น    น�าทหารรักษาวังไปยึดหัวรถจักรและรถโบกี้โดยสารจากสถานี
                      ครั้นถึง พ.ศ. ๒๔๗๕ ได้เกิดเหตุใหญ่ในบ้านเมือง  วังก์พงก่อนถึงปราณบุรี ใต้ลงไปจากหัวหิน ๒๐ กิโลเมตร
               ทหารในนามคณะราษฎรเข้ายึดอ�านาจเปลี่ยนแปลงการปกครอง  ซึ่งพวกคนรถไฟที่นั่นก็ยอมหลีกทางให้โดยดี
               แผ่นดิน หลังจากนั้นก็มีการโยกย้ายข้าราชการมากมายทั้งทหาร  เมื่อพร้อมแล้ว รถไฟขบวนพิเศษก็ออกเดินทางจาก
               และพลเรือน เป็นเหตุให้เจ้ากาวิละวงศ์ต้องจากกรมทางหลวงมา  สถานีหัวหินลงใต้ โดยเจ้ากาเป็น พขร. ด้วยตนเอง ให้ทหารรักษาวัง
               สังกัดกระทรวงวัง มีต�าแหน่งเป็นนายช่างพิเศษกรมวังนอก  ๑ หมู่ เป็นคนโยนฟืนและเป็นช่างไฟหน้าเตา ขบวนรถถึงสถานี
                      ถัดมาในปี ๒๔๗๖ คณะกู้บ้านกู้เมืองน�าโดยพลเอก  ประจวบแล้วไปต่อไม่ได้ เพราะถูกต�ารวจร่วมกับพนักงานรถไฟ
               พระองค์เจ้าบวรเดชได้เคลื่อนทัพทหารหัวเมืองจากโคราชมา  และพวกข้าราชการฝ่ายที่ประจบรัฐบาลรวมตัวกันได้กลุ่มหนึ่ง
               หยุดที่ดอนเมือง หวังขู่ให้รัฐบาลคณะราษฎรลาออก แต่รัฐบาล  มาวางเครื่องกีดขวางรางไว้ แล้วจะขอปลดอาวุธ
               เลือกที่จะรบให้แตกหัก เวลานั้นพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าฯ   ม.จ.ศุภสวัสดิ์ทรงออกค�าสั่งให้ทหารรักษาวังติดดาบ
               และพระบรมราชินีประทับที่พระราชวังไกลกังวล หม่อมเจ้า  และเล็งปืนใส่จึงชะงักอยู่ จนหม่อมเจ้าทองเติม ทองแถม ข้าหลวง
               วิบูลย์สวัสดิ์วงศ์ สวัสดิกุล ราชเลขานุการในพระองค์ได้กราบ  ทรงมาไกล่เกลี่ยไม่ให้ยิงกัน หลังการเจรจา ทหารรักษาวังยอมให้
               บังคมทูล ขอให้เสด็จแปรพระราชฐานไปประทับที่บางปะอิน  พวกนั้นค้นขบวนรถเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีทหารฝ่าย
               พระเจ้าอยู่หัวรับสั่งว่าไปท�าไมกันบางปะอิน ไปให้บวรเดชจับหรือ  พระองค์บวรเดชปะปนมาด้วย แต่ฝ่ายค้นก็รื้อข้าวของกระจุย
               แล้วทรงเรียกหลวงศรสุรการ นายทหารราชองครักษ์ ให้ไปแจ้งให้  กระจายเหมือนแกล้ง แต่เมื่อไม่พบอะไรก็จ�ายอมหลีกทางให้
               ทั้งสองฝ่ายรู้ว่าจะทรงเป็นกลาง ไม่เข้ากับฝ่ายใดทั้งสิ้น   ขบวนรถ เมื่อออกจากประจวบมาแล้ว ทราบว่ามีค�าสั่งให้ระเบิด
                      วันที่ ๑๗ ตุลาคม ๒๔๗๖ เมื่อทรงทราบข่าวว่ารัฐบาล  สะพานรถไฟเสียตั้งแต่ก่อนถึงสถานี แต่ผู้ที่รับค�าสั่งแสร้งโง่ แกล้ง
               จะส่งทั้งรถไฟและเรือรบไปหัวหินเพื่อกราบบังคมทูลเชิญให้เสด็จ  จุดระเบิดให้หลังจากที่รถไฟแล่นผ่านมาแล้ว
               กลับพระนคร จึงทรงตัดสินพระทัยจะเสด็จไปสงขลาในค�่าคืนนั้น  ถึงชุมพร ขบวนรถยังถูกกักที่สถานีอีก พระราชญาติ
               เอง โดยเสด็จออกทางชายหาดหน้าวังไกลกังวลโดยเรือบด ขึ้น  รักษาต้องมาออกค�าสั่งปล่อยให้เดินทางต่อไปได้ ต่อมาท่าน
               ประทับเรือพระที่นั่งศรวรุณมุ่งลงใต้ นอกจากพระเจ้าอยู่หัวกับ  ข้าหลวงคนนี้ถูกปลดเพราะรัฐบาลไม่พอใจ หลายปีหลังจากนั้น
               พระราชินีแล้ว มีผู้ตามเสด็จอีกเพียง ๑๐ คน มีพลประจ�าเรือพร้อม  ยังได้ยัดข้อหากบฏให้อีก ศาลพิเศษอยุติธรรม พ.ศ. ๒๔๘๒
               ทหารรักษาวังอีก ๗ นาย อาวุธมีเพียงปืนกลมือเท่านั้น  พิพากษาให้จ�าคุกตลอดชีวิต
                      เรือศรวรุณจัดเป็นเรือยามฝ่งขนาดไม่ใหญ่นัก ใช้เครื่อง  อย่างไรก็ดี ก่อนที่ขบวนรถจะถึงสุราษฎร์มีข่าวว่า
               น�้ามันกาด ความเร็ว ๑๕ น็อต (๒๗ กม./ชม.) ไม่มีเข็มทิศและ  นายกรัฐมนตรียินยอมตามโทรเลขของสมุหราชองครักษ์ ให้
               แผนที่เดินเรือทะเลลึก ในขณะที่สงขลาอยู่ห่างออกไปถึง ๖๕๐  ปล่อยขบวนรถผ่านตลอด เจ้ากาซึ่งมีอาการไข้ขึ้นสูงถึง ๑๐๔
               กม. พอเดินทางฝ่าคลื่นลมมาเช้าที่ปากน�้าชุมพรก็ต้องจอดส่งคน  ฟาเรนไฮต์ และไม่ค่อยได้กินข้าวกินน�้าจึงได้พักผ่อน ให้คนอื่น
               เข้าเมืองไปขอน�้ามันจากข้าหลวง แล้วส่งอีกส่วนหนึ่งไปหาอาหาร  ขับรถจักรต่อไปจนถึงสงขลา
               พวกนี้กลับมาพร้อมปิ่นโตเพียงเถาเดียว แบ่งกันได้คนละเล็ก   ส่วนเรือพระที่นั่งศรวรุณนั้นโชคดี ได้พบกับเรือสินค้า
               ละน้อย ต้องคอยอยู่นานเพราะน�้ามันกาดของทางราชการมี  ชื่อวลัยของบริษัทอิสต์เอเชียติกกลางทะเลลึกในตอนเช้าวันที่
               ไม่พอ พระราชญาติรักษาข้าหลวงต้องให้คนไปเที่ยวกว้านซื้อ  สาม กัปตันชาวเดนมาร์กได้ทูลเชิญให้พระเจ้าอยู่หัวและ
               ทั่วเมืองกว่าจะได้ตามที่ต้องการ หลังจากส่งเสบียงและเติมน�้ามัน  พระราชินีเสด็จขึ้นประทับบนเรือ พร้อมกับบรรดาผู้ตามเสด็จ
               เต็มถังแล้ว เรือศรวรุณก็ออกเดินทางต่อไป แม้สภาวะคลื่นลมจะ  และลูกเรือทุกคน แล้วพ่วงเรือศรวรุณไว้ท้าย วิ่งย้อนกลับไปส่ง
               แรงยิ่งขึ้นก็ตาม                                 ยังสงขลาโดยปลอดภัย
                      ส่วนเจ้านายอีกหลายพระองค์ที่ประทับที่หัวหินยัง   เจ้ากาวิละวงศ์ ณ เชียงใหม่ ไม่มีดวงจะต้องไปติดคุก
               ตกค้างอยู่ ทั้งสมเด็จกรมพระยาด�ารงฯ และสมเด็จกรมพระยานริศฯ    ติดตะรางเพราะเป็นฝ่ายเจ้าในข้อหากบฏต่อรัฐบาล เพราะรัฐบาล
               ฯลฯ ไม่สามารถโดยเสด็จทางเรือได้ และยังมีข้าหลวงมหาดเล็ก  เพ่งเล็งแต่ ม.จ.ศุภสวัสดิ์ ซึ่งหนีไปปีนังพร้อมๆ กับเสด็จพ่อและ
               หลายสิบคน กับทหารรักษาวัง ๒ กองร้อยอีกด้วย พระเจ้าอยู่หัว  เจ้านายทุกพระองค์แล้ว แต่เจ้ากาก็ถูกแขวนอยู่จนกระทั่ง พ.ศ.
               ได้รับสั่งไว้ให้ ม.จ.ศุภสวัสดิ์วงศ์สนิท สวัสดิวัตน หรือท่านชิ้น ท่าน  ๒๔๗๘ จึงได้ย้ายไปท�างานที่กรมโยธาเทศบาล พ.ศ. ๒๔๘๐
               ผู้นี้ทรงเป็นพระเชษฐาของพระราชินี และเป็นผู้บังคับการกอง  ได้ไปเป็นนายช่างภาค ก�ากับการภาคอีสาน พ.ศ. ๒๔๘๕ เป็น
               ทหารรักษาวัง ให้จัดการหารถไฟตามไปด้วยกันทั้งหมด   นายช่างก�ากับเขต นครราชสีมา พ.ศ. ๒๔๘๖ ย้ายกลับมาสังกัด
                      เวลานั้น เจ้ากาวิละวงศ์ ณ เชียงใหม่ ซึ่งอยู่ระหว่าง  กรมทางหลวง พ.ศ. ๒๔๘๗ จึงมีค�าสั่งให้ย้ายไปเป็นนายช่าง
               ท�างานส�ารวจเส้นทางจากประจวบไปด่านสิงขร พอมีข่าวไม่ดี  หัวหน้ากองก่อสร้างประจ�าจังหวัดเพชรบูรณ์


                                                                                                     239 I 239
   236   237   238   239   240   241   242   243   244