Page 240 - :: สมุดภาพกรมทางหลวง เล่ม ๒ ::
P. 240

เจ้ากาวิละวงศ์


                                   วิศวกรกระดูกเหล็กแห่งกรมทาง

                                   โดย ม.ล.ชัยนิมิตร นวรัตน




                                                                      เจ้ากาวิละวงศ์ ณ เชียงใหม่
                                                           เป็นบุตรของเจ้าราชวงศ์ (ชมชื่น ณ เชียงใหม่)
                                                                     กับเจ้ากรรณนิกา ณ เชียงใหม่
                                   เจ้ากาวิละวงศ์ ณ เชียงใหม่  สมัยหนุ่มร่างสูงใหญ่ หน้าตาดีมีเสน่ห์มาก




                 ในหนังสือ “คือเส้นทางสร้างชาติไทย” ของกรมทาง มีเรื่อง  เจ้ากาวิละวงศ์แรกเข้ารับราชการที่กรมรถไฟหลวงเมื่อ
           ของบรรพชนกรมทางรุ่นบุกเบิกท่านหนึ่ง ชื่อของท่านเห็นแล้ว  พ.ศ. ๒๔๖๖ มีต�าแหน่งเป็นนายช่างผู้ช่วย ควบคุมการก่อสร้าง
           รู้สึกคุ้นมาก ตั้งแต่พระนาม “พระเจ้ากาวิละ” ซึ่งพระบาทสมเด็จ   สะพานพระราม ๖ บริษัท เล เอตาบริดจ์มองต์ ไตเต ประเทศ
           พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาขึ้นเป็นพระเจ้า  ฝรั่งเศสเป็นผู้ออกแบบรับเหมา ก่อนที่สะพานจะเสร็จพระบาท
           เชียงใหม่ ปกครองดินแดนล้านนาไททั้ง ๕๗ เมือง หลังจากกองทัพ  สมเด็จพระมงกุฎเกล้าฯ ได้เสด็จสวรรคตไปแล้ว องค์ผู้เสด็จ
           ไทยได้ขับไล่พม่าผู้ยึดครองมานมนานกว่าสองร้อยปีออกไปได้   พระราชด�าเนินมาทรงกระท�าพิธีเปิดสะพานในปี ๒๔๖๙ จึงเป็น
           เจ้ากาวิละวงศ์ ณ เชียงใหม่ ถือเป็นชั้นหลานทวด ชีวิตของท่าน   พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าฯ เจ้ากาได้เฝ้ารับเสด็จ
           มีสีสันมาก ไม่ใช่เฉพาะเรื่องการงานสร้างถนนหนทาง แต่เพราะ  พ.ศ. ๒๔๖๘ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าฯ พร้อม
           ไปเกี่ยวพันกับเหตุการณ์น่าสนใจในประวัติศาสตร์หลายเรื่อง  ด้วยสมเด็จพระนางเจ้าร�าไพพรรณี พระบรมราชินี เสด็จ
                 เมื่ออายุ ๓ ขวบ เจ้าแม่ของเจ้ากาวิละวงศ์ถึงแก่กรรม     พระราชด�าเนินเลียบมณฑลฝ่ายเหนือและมณฑลพายัพ เจ้านาย
           เจ้าพ่อจึงน�าตัวท่านกับพี่สาวมากรุงเทพในสมัยปลายรัชกาลที่ ๕    ฝ่ายเหนือน�าโดยพระราชชายา เจ้าดารารัศมี และเจ้าหลวง
           เพื่อยกให้เจ้าดารารัศมีโดยหวังอนาคตที่ดีกว่า พระราชชายา   แก้วนวรัฐ ได้จัดถวายการต้อนรับอย่างสมพระเกียรติสูงสุด ในวัน
           เลี้ยงดูอุปการะไว้ยังพระบรมมหาราชวังฝ่ายในจนถึง ๘ ขวบ   ที่ทรงช้างพระที่นั่งแห่เข้าเมือง เจ้ากาได้รับหน้าที่เป็นควาญท้าย
           พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ โปรดให้พระองค์เจ้าจรูญศักดิ์   ช้างทรงของสมเด็จพระบรมราชินี เสด็จตามช้างทรงของพระบาท
           กฤดากร ออกไปเป็นราชทูตที่ฝรั่งเศส จึงทรงพระกรุณาให้ทั้ง  สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีขบวนช้างในขบวนเสด็จยิ่งใหญ่อลังการ
           สองพี่น้องติดตามไปเรียนหนังสือที่นั่นด้วย       กว่า ๘๐ เชือก หลังจากนั้น ได้ร่วมฟ้อนกับเจ้านายฝ่ายเหนือเพื่อ
                 หลังจากอยู่ที่ปารีสปีเศษ พระองค์เจ้าจรูญศักดิ์ได้ส่งเจ้า  น�าขบวนบายศรีทูลพระขวัญด้วย
           กาวิละวงศ์ไปเรียนพับลิกสกูลในอังกฤษที่ Timsbury แต่ทุกครั้งที่  ๓๓  ปีต่อมา  เจ้ากาวิละวงศ์ยังได้มีโอกาสสนอง
           ปิดเทอมก็ได้ไปพ�านักที่สถานทูตสยามในกรุงปารีส และย้ายไปเข้า   พระมหากรุณาธิคุณ โดยร่วมฟ้อนกับเจ้านายฝ่ายเหนือในการน�า
           มัธยมจนเข้ามหาวิทยาลัยที่นั่น จบได้ปริญญาตรี    ขบวนบายศรีทูลพระขวัญ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหา
                 สมัยเมื่อพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าฯ ยังทรงเป็น  ภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
           สมเด็จเจ้าฟ้าประชาธิปก และศึกษาอยู่ในยุโรปนั้น ทรงรู้จักเจ้า  ในคราวเสด็จเยือนเชียงใหม่เป็นครั้งแรกในปี ๒๕๐๑ เช่นกัน
           กาวิละวงศ์ตั้งแต่ ๑๐ ขวบ ทรงเล่าให้นักเรียนไทยรุ่นหลังๆ ฟง  สมัยก่อนโน้นกระทรวงคมนาคมมีเพียง ๓ กรม คือกรม
           ว่า “ตากา” มีหมัดมฤตยู เด็กๆ ลือกันว่าเคยชกเด็กฝรั่งหมอบ  รถไฟ กรมทาง และกรมไปรษณีย์โทรเลข หากนายช่างกรมใด
           ไปหลายคน จึงนับถือเจ้ากาเป็นไอดอล ยิ่งตอนเป็นหนุ่มรูปหล่อ   ขาดก็จะยืมตัวจากอีกกรมหนึ่งไปใช้งานได้ เจ้ากาวิละวงศ์จึงต้อง
           ร่างกายสูงใหญ่ ถือว่าเป็นขวัญใจเลยทีเดียว       ท�างานสลับไปสลับมาระหว่างกรมทางกับกรมรถไฟ
                 เมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่ ๑ ในทวีปยุโรป พระบาท  ใน พ.ศ. ๒๔๖๙ เจ้ากาวิละวงศ์ได้เลื่อนต�าแหน่งหน้าที่
           สมเด็จพระมงกุฎเกล้าฯ ทรงส่งทหารอาสาไปร่วมรบกับฝ่าย  เป็นนายช่างภาคของกรมทาง ได้รับมอบหมายให้ส�ารวจเส้นทาง
           สัมพันธมิตร เจ้ากาวิละวงศ์ได้สมัครเข้าร่วมในกองทัพสยาม  ที่จะสร้างถนนจากขอนแก่นไปหนองคายและนครพนม และอีก
           ด้วย ได้รับยศสิบโท ประจ�าการในกองบินทหารบก มีหน้าที่เป็น  เส้นทางหนึ่งระหว่างบ้านหมี่-บัวชุม-บัวใหญ่ ขณะที่ขึ้นเครื่องบิน
           ล่ามประจ�าคณะ ท�าความดีความชอบได้เลื่อนยศสูงขึ้นเรื่อยๆ  ตรวจการณ์ปีกสองชั้นของทหารจากโคราชย้อนลงไปส�ารวจ
           จนเป็นนายดาบ ซึ่งเป็นระดับประทวนที่สูงกว่าจ่าสิบเอก หลัง  แนวทางนั้น นักบินเกิดหลงทิศ พาเครื่องบินไปน�้ามันหมดเกือบ
           สงครามได้เข้าเรียนต่อที่วิทยาลัยก่อสร้างสะพานและถนนแห่ง  ถึงชายแดนพม่าโน่น ต้องร่อนลงแล้วโดนยอดไม้ตีลังกาตกใน
           ชาติของฝรั่งเศส (École nationale des ponts et chaussées)   ป่าบ้านหม่องกั๊วะ อ�าเภออุ้มผาง จากภาพที่ถ่ายจากกล้องของ
           จบแล้วฝึกงานกับการรถไฟที่นั่นประมาณปีเศษ จึงได้เดินทาง  ท่านเองจึงเห็นเครื่องบินหงายท้อง แต่ไม่ระเบิดไฟลุกไหม้เพราะ
           กลับเมืองไทย                                    น�้ามันคงแห้งถังจริงๆ ตัวท่านก็อึดมากเพียงแต่ข้อกระดูกไหล่หลุด




           238 I 238
   235   236   237   238   239   240   241   242   243   244