Page 210 - สมุดภาพ กรมทางหลวง ยุคแรก เนื่องในโอกาส ๑๐๙ ปี กรมทางหลวง ๒๔๕๕-๒๕๖๔
P. 210
ตาแหน่งดังกล่าวสาคัญมากแต่คงไม่มีใครอยากจะไป ใหญ่ บนถนนสถิตนิมานกาล อุบลราชธานี ด้วยแบบวิศวกรรมอัน
�
�
ั
ิ
เวลาน้นเป็นช่วงปลายสงคราม จอมพล ป.พิบูลสงคราม นายก ทันสมัย ใช้โครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กโค้งห้วรับตัวสะพาน แล้ว
้
รัฐมนตรีต้องการย้ายเมืองหลวงอย่างเร่งด่วนจากกรุงเทพไปอยู่ ถ่ายนาหนักลงบนตอม่อโดยไม่มีเสากลาง สาเร็จงดงาม ชาวบ้าน
�
�
ี
ท่นั่นเพื่อเตรียมการจะแตกหักกับญ่ปุ่น แต่แผนน้ไม่สาเร็จเพราะ ตื่นเต้นมาก เพราะเคยเห็นแต่สะพานไม้ที่ใช้เสามากมาย รัฐบาล
ี
�
ี
แพ้เชิงการเมืองของนายปรีดี พนมยงค์ ในทางลับคือหัวหน้าเสรี จึงให้เกียรติขนานนามสะพานน้อย่างเป็นทางการว่า “สะพาน
ี
�
ี
ี
ไทยสายในประเทศท่ต้องการกาจัดจอมพล ป. ผู้ท่สัมพันธมิตร กาวิละวงศ์”
หมายหัวว่าเป็นศัตรูให้พ้นจากต�าแหน่ง จึงให้ ส.ส. ในคาถาของ เมอองคการสหประชาชาติจัดตงสานักงานคณะกรรมการ
ั
่
ื
์
้
�
ตนโหวตควาร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว นายกรัฐมนตรีจึงต้อง เศรษฐกิจและสังคมแห่งเอเชียแปซิฟิก Economic Commission
่
�
ื
ลาออกตามกติกา เร่องน้แทบทุกคนก็เต็มใจจะโหวตล้มอยู่แล้ว For Asia And The Far East (ECAFE) ข้น เพื่อให้ความช่วยเหลือ
ี
ึ
ไม่มีใครอยากย้ายไปตายด้วยไข้ป่าในเพชรบูรณ์ เวลานั้นคนงาน ด้านเศรษฐกิจของเมืองไทยหลังสงครามโลกคร้งท่ ๒ ในกรมทาง
ั
ี
ท่รัฐบาลส่งไปบุกเบิกงานก่อสร้างพากันล้มตายราวกับใบไม้ร่วง ไม่มีใครเหมาะสมเท่าท่านท้งด้านความรู้และประสบการณ์ เจ้า
ี
ั
แต่นายช่างกระดูกเหล็กไม่ตาย กลับมารับราชการต่อในกรุงเทพ กาวิละวงศ์จึงถูกส่งไปร่วมทางานในฐานะเจ้าหน้าท่ประสาน
ี
�
มีต�าแหน่งเป็นผู้เชี่ยวชาญกรมทางหลวง นโยบาย ท่านทางานตรงน้ได้ ๒ ปีจึงเกษียณอายุเม่อ พ.ศ. ๒๕๐๐
�
ี
ื
ั
ั
ส่วนเจ้ากานั้น ท้งกระดูกเหล็กท้งโชคดี จึงมีชีวิตรอด ปัจจุบันองค์การอีคาเฟ่นี้ได้เปลี่ยนชื่อเป็นแอสแคป (ESCAP)
กลับมาได้ หลังจากนั้นชีวิตของท่านก็อยู่กับงานอดิเรกในด้าน
ี
�
เจ้ากาวิละวงศ์ได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้ท่ทรหดมาก การถ่ายภาพ ซ่งท่านมีชานาญมาแต่เก่าก่อน บรรดาภาพท ี ่
ึ
ั
�
ี
สมฉายา ระหว่างอยู่ในหน้าท่นี้ เคยเดินสารวจป่าเขาอันทุรกันดาร ท่านถ่ายไว้เม่อคร้งทางานเก่ยวกับถนนและสะพานมีนับพันรูป
ื
ี
�
ี
�
เป็นระยะทางนับร้อยกิโลเมตร เพื่อจะหาแนวทางของถนนท่จะตัด แต่ละรูปได้เขียนบันทึกเรื่องราวไว้เป็นอย่างดี ทาให้มีคุณค่า
ั
จากอ�าเภอแม่สรวยไปอ�าเภอฝางด้วย ทางประวัติศาสตร์มาก แล้วท่านยังได้ร่วมก่อต้งสมาคมถ่ายภาพ
ี
ึ
ึ
ื
เม่อเหตุร้ายต่างๆทางการเมืองภายนอกและภายใน แห่งประเทศไทยข้น ซ่งใน พ.ศ. ๒๕๐๔ สมาคมน้ได้รับพระ
สงบลง ใน พ.ศ. ๒๔๙๒ สมเด็จพระนางเจ้าราไพพรรณีได้ มหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลย
�
อัญเชิญพระบรมอัฐิของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เดช ทรงรับเข้าอยู่ในพระบรมราชูปถัมภ์
จากประเทศอังกฤษกลับสู่ประเทศไทย ทว่าเวลานั้นพระต�าหนัก เจ้ากาวิละวงศ์ ณ เชียงใหม่ ได้สมรสกับเจ้าศิริประกาย
ิ
ิ
ิ
วังศุโขทัย แม้ว่าจะเป็นสมบัติส่วนพระองค์ที่สมเด็จพระศรีพัชริน มีบุตรธดา ๓ คน คือ เจ้าพงษ์กาวล เจ้าศริกาวล และเจ้า
ิ
ทราบรมราชินีพันปีหลวงทรงใช้พระราชทรัพย์สร้างพระราชทาน กอแก้วประกายกาวิล คนสุดท้อง ท่านหลังนี้คือไฮโซเซเลบ
เป็นของขวัญเนื่องในการอภิเษกสมรสก็ตาม แต่ก็กลับกลายไป ตัวจริงเสียงจริงของฟ้าเมืองไทย เม่อสูงวัยเป็นเจ้าป้าผู้มีจิตใจด ี
ื
้
ื
�
�
เป็นของสานักงานทรัพย์สินฯซ่งถูกรัฐบาลคณะราษฎรยึดไป ไม่เคยนินทาว่าร้ายใคร มีนาใจ ไม่ถือตัว และนิสัยร่นเริงสนุกสนาน
ึ
�
ี
สังกัดกระทรวงการคลังแล้ว และใช้เป็นท่ทาการของกระทรวง ตามบทสรุปที่ผู้ใกล้ชิดทุกคนกล่าวขวัญถึง
สาธารณสุข ดงน้น สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีจึงได้ เม่อเจ้าศิริประกายถึงแก่กรรม ท่านได้สมรสใหม่อีกคร้ง
ั
ั
ั
ื
เชิญเสด็จไปประทับ ณ พระต�าหนักของสมเด็จพระบรมราชชนก กับคุณถนิม (นาวานุเคราะห์) แต่ไม่มีบุตรด้วยกัน
ในวังสระปทุม วิศวกรกระดูกเหล็กเร่มมีอาการป่วยกระเสาะกระแสะ
ิ
สมเด็จพระนางเจ้าราไพพรรณี มิได้ทรงรบกวนสมเด็จ ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๐๖ เริ่มจากไหล่ที่เคยหลุดคราวเครื่องบินตกเกิด
�
ี
ี
พระศรนครินทร์นานเกินควร เพราะทรงมพระราชประสงค์ท ี ่ อักเสบและอาการลุกลามไปที่อื่นจนเดินไม่ถนัดเหมือนเดิม หลัง
�
ี
จะเสด็จไปประทับท่ต่างจังหวัด เพื่อจะทรงพักผ่อน ทาไร่ ทา � จากนั้นก็ต้องเข้าโรงพยาบาลแทบจะทุกปี คราวหนึ่งลาไส้ไม่
�
ี
สวน จึงโปรดให้เจ้ากา ซึ่งมาถวายการรับใช้ใกล้ชิดอยู่ด้วยความ ทางาน ระหว่างท่ป่วยอยู่โรงพยาบาลน้น สมเด็จพระนางเจ้าราไพ
ั
�
�
กตัญญู ไปเสาะหาที่ดินอันเหมาะสมให้ ซึ่งไปได้ห่างจากตัวเมือง พรรณีได้เสด็จไปเยี่ยมเจ้ากาถึง ๒ ครั้งจนหาย เข้าโรงพยาบาล
จันทบุรี ๕ กิโลเมตร ประมาณ ๗๓๐ ไร่ ทรงพอพระทัย จึงทูลลา ครั้งสุดท้ายด้วยอาการของโรคเบาหวาน แต่หมอกลับเจอว่าเป็น
ออกจากวังสระปทุมมาทรงสร้างวังสวนบ้านแก้ว แล้วประทับด้วย มะเร็งท่ปอดและตับอ่อน แต่ไม่ได้เจาะตรวจเพราะอายุมากแล้ว
ี
ึ
ความสุขจวบจนพระชนมายุสูงข้น และพระพลานามัยไม่สมบูรณ์ เม่อเห็นว่าไม่มีทางหาย เจ้ากาวิละวงศ์จึงตัดสินใจกลับมารักษา
ื
แล้ว รัฐบาลใน พ.ศ. ๒๕๑๕ ได้กราบบังคมทูลขอให้เสด็จกลับมา ตามอาการที่บ้าน อยู่ได้อีก ๒ เดือนจึงได้ถึงแก่กรรมด้วยอาการ
ประทับ ณ วังศุโขทัย ซึ่งได้ย้ายกระทรวงออกไปแล้วและท�าการ อันสงบ เมื่อวันที่ ๒๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๑๐ สิริอายุรวม ๗๐ ปี
บูรณะใหม่ถวาย และขอพระกรุณาทูลเกล้าถวายเงิน ๑๘ ล้านบาท กับอีก ๒ วัน
ี
เพื่อขอรับพระราชทานท่ดินวังสวนบ้านแก้ว เพื่อจัดตั้งวิทยาลัย ชีวิตของเจ้ากาวิละวงศ์ ณ เชียงใหม่ อุทิศให้กับสองเร่อง
ื
ครูจันทบุรีสืบไป คือความจงรักภักดีและกตัญญูต่อพระองค์ผู้ทรงมีพระคุณ และ
เจ้ากาวิละวงศ์ยังคงท�างานกรมทางภาคอีสานจน พ.ศ. การงานในหน้าที่ ไม่ว่าจะต้องสมบุกสมบันเท่าไหนก็ไม่ท้อถอย
้
�
�
๒๔๙๓ ในฐานะท่เป็นผู้อานวยการสร้างสะพานข้ามแม่น�าลาโดม นับเป็นตัวอย่างอันดีต่ออนุชน
ี
208 I 208